นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ถึงแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 และแนวทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการเกษตร พัฒนาบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และการพัฒนา SMEs ไทยด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรมว่า กระทรวงฯ มีนโยบายชัดเจนถึงการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาสร้างชาติ โดยแบ่งเป็นกลุ่มวิทย์สร้างคน วิทย์แก้จน วิทย์สู่ภูมิภาค และวิทย์เสริมแกร่ง โดยในทุกกลุ่มจำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ซึ่งเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้นโยบายเหล่านี้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญจะเป็นการวางรากฐานเพื่อไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน การหารือร่วมกับ ส.อ.ท.ในครั้งนี้จึงมีเป้าหมายในการร่วมผลักดันให้อุตสาหกรรมไทยสู่ศตวรรษที่ 21 โดยใช้ วทน.สร้างความเข้มแข็งในทุกมิติ เพื่อเตรียมอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตได้อย่างแข็งแกร่ง
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ส.อ.ท.ในฐานะเป็นแกนกลางเสริมสร้างความเข้มแข็งภาคอุตสาหกรรมไทย มีความเห็นตรงกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในการร่วมมือกันพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไปสู่ศตวรรษที่ 21 โดยจะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายหลัก 4 ด้าน ดังนี้
1.แนวทางพัฒนาภาคอุตสาหกรรมเกษตรด้วย STI (Science Technology and Innovation) เพื่อเพิ่มมูลค่าและปรับเปลี่ยนสู่การเป็น Smart Farming โดย ส.อ.ท.ได้นำเสนอการยืดอายุผักผลไม้สดที่มีมูลค่าสูงเพื่อการส่งออก โดยใช้ วทน.และส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนใน Plant Factory
2.ด้าน STEM Academy แบ่งเป็นการพัฒนาทักษะคนในภาคอุตสาหกรรม (Reskill / Unskill) และการพัฒนากำลังคนด้าน STEM ให้ตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรม (Early Recruitment) เพื่อผลิตกำลังคนในสาขาที่ขาดแคลน ให้สอดคล้องกับความต้องการและสามารถทำงานกับภาคอุตสาหกรรม โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ของบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาค ทวิภาคี และ Factory Management รวมทั้งเจ้าของกิจการ
3.The Industry Innovation Transform Entrepreneur Center ลดความเหลื่อมล้ำ เสริมสร้างศักยภาพคนทุกกลุ่ม ด้วยการผลักดันเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมใน 4 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ได้แก่ เกษตรกร และ OTOP 2) กลุ่ม SMEs (Local / Cluster / Sector) ที่มีศักยภาพ 500 ราย 3) กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ และ 4) กลุ่ม Tech-based Startup 300 ราย โดย ส.อ.ท. จะเน้นสร้างความเข้มแข็งของกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก (เกษตรกร และ OTOP), การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับ SMEs และการพัฒนา Tech-based Startup
4.พัฒนาโครงสร้างเพื่ออุตสาหกรรมแห่ง (Future Industry Infrastructure) โดยการหาอุตสาหกรรมที่มีความได้เปรียบ และเป็นอุตสาหกรรมในอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมเข้าสู่ตลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและบริการ โดย ส.อ.ท.จะพัฒนาฐานข้อมูลเชิงลึกของภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการยกระดับมาตรฐานของไทยสู่มาตรฐานสากล
ส่วนความร่วมมือในเรื่องอื่นๆ จะเป็นเรื่องของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับการบริหารจัดการน้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในเขต EEC, การใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการค้า, การพัฒนา Startup Platform, การจัดงาน Thai Tech Expo และ Techno Mart, ความร่วมมือในการส่งเสริมให้ SMEs เข้าถึงนวัตกรรม ITAP / Open Innovation / Ted Fund และแนวทางการพัฒนา Technology Financing ร่วมกัน