น.ส.กรองกนก มานะกิจจงกล ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2018 ระหว่างวันที่ 16–19 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจภายในงานจำนวนทั้งสิ้น 7,211 คู่ คิดเป็นมูลค่าที่จะซื้อขายชิ้นส่วนในอนาคตประมาณ 12,706 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ (เป้าหมาย 6,500 คู่ มูลค่า 12,000 ล้านบาท) โดยกลุ่มที่มีการเจรจาธุรกิจสูงสุดของการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกล ตามลำดับ
ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติเข้าชมงานตลอดทั้ง 4 วัน จำนวน 40,627 คน
"ความสำเร็จของซับคอนไทยแลนด์ นอกจากมูลค่าการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการและผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ซึ่งในอนาคตซับคอนไทยแลนด์จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับภูมิภาค ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด" น.ส.กรองกนกกล่าว
ภายหลังการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนจะร่วมมือกับ กลุ่มผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าว หันมายกระดับและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ และอุตสาหกรรมอากาศยาน
น.ส.กรองกนก กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ บีโอไอจะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานโดยมีบริษัทชั้นนำทั้งในและจากต่างประเทศ ร่วมพบปะและเจรจากับบริษัทรับช่วงการผลิตของไทย อาทิ แอร์บัสกรุ๊ป บริษัทโบอิงจำกัด บริษัทเทอร์ไบน์แอโร เอเชีย จำกัด ไทรอัมพ์กรุ๊ป บริษัทซีเนียร์ แอโรสเปซ จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด เป็นต้น