น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวถึงระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงาน หรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ 2561 ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2561 นั้น เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้กระทรวงการคลังจัดระเบียบการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างของหน่วยรายการต่างๆ ซึ่งยืนยันว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อการว่าจ้างพนักงานหรือลูกจ้างของทุกหน่วยงาน
"ยืนยันว่า ระเบียบที่ออกมาไม่ได้มีปัญหาและส่งผลกระทบอะไรเลย แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นเพราะการสื่อสารที่ไม่ตรงกันมากกว่า โดยระเบียบที่ออกมาเป็นการจัดระเบียบเท่านั้น ซึ่งต่อไปรัฐบาลจะได้รู้ว่ามีการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างชั่วคราวของทุกหน่วยงานกี่คน ใช้เงินงบประมาณเท่าไร โดยเฉพาะของกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้รับผลกระทบจากระเบียบดังกล่าวเลย เพราะได้ทำข้อตกลงกับกระทรวงการคลังมาตลอด และยังมีระเบียบการใช้เงินบำรุงซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณของตัวเองกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่งด้วย" น.ส.สุทธิรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ ระเบียบได้กำหนดการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้าง แบ่งออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ 1. หน่วยงานที่ได้ทำการตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นที่เรียบแล้ว เช่น กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้ทำเรื่องขอกำหนดอัตราการจ้างพนักงานและลูกจ้างแบบ 1 ปี จำนวน 7.9 พันคน และแบบ 4 ปี จำนวน 3.1 หมื่นคน จึงไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น
ในส่วนที่ 2 หน่วยงานที่ยังไม่ได้ทำการตกลงกับกระทรวงการคลัง แต่มีการว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างไปแล้ว ก็ให้ว่าจ้างพนักงานและลูกจ้างดังกล่าวต่อไปจนสิ้นสุดสัญญา แต่หากจะว่าจ้างในรอบใหม่ก็ต้องทำเรื่องเสนอข้อตกลงมายังกระทรวงการคลัง โดยให้ทำเรื่องเสนอมาก่อนหมดสัญญาว่าจ้างเพื่อการดำเนินงานต่อเนื่อง เพราะหากรอหมดสัญญาเดิมและทำเรื่องจะพิจารณาไม่ทันจะทำให้การว่าจ้างมีปัญหาได้