สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน เม.ย.61 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12 ส่งผลทำให้ 4 เดือนแรกของปี 61 (ม.ค.-เม.ย.) MPI ขยายตัว 4.1% โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวก ได้แก่ น้ำตาลทราย รถยนต์และเครื่องยนต์ เม็ดพลาสติก Hard Disk Drive และน้ำมันปิโตรเลียม
นายณัฐพล รังสิตพล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสศอ. เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม อยู่ที่ 103.28 ขยายตัว 3.99% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) แต่ลดลง 20.24% จากเดือนมี.ค. 61 (MoM) ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 61.58%
สำหรับสินค้าในอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนี MPI เดือนเม.ย.นี้มีการขยายตัว ได้แก่ น้ำตาลทราย ขยายตัวเพิ่มขึ้น 44.13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลผลิตอ้อยที่มีมากกว่าปีก่อน ฝนตกชุกกระทบต่อการตัดอ้อยล่าช้ากว่าปกติ ผลผลิตจึงมากระจุกตัวอยู่ช่วงท้ายฤดูหีบอ้อย ส่งผลให้มีการผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
รถยนต์และเครื่องยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.31% จากเครื่องยนต์แก๊สโซลีน เครื่องยนต์ดีเซล รถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 1,800 cc และรถปิคอัพ
เม็ดพลาสติก ขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.41% จากสินค้า PP , PVC , PE และ LLDPE เป็นหลัก จากการขยายกำลังการผลิตของบางบริษัทที่รองรับการส่งออกและความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศ เช่น บรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
Hard Disk Drive (HDD) ขยายตัวเพิ่มขึ้น 19.78% เนื่องจากผู้ผลิตได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นและภาพรวมอุตสาหกรรมยังเติบโต
น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเป็นหลัก
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.03% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลัก ได้แก่ HDD, Monolithic IC, Semiconductor และ PCBA ตามการขยายตัวของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์โลก โดย IC ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการใช้เป็นชิ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาสินค้าที่มีการใช้เทคโนโลยีสูง รวมถึงนำไปใช้เป็นชิ้นส่วน Smart phone, Tablet ส่วน HDD มีการพัฒนาให้มีความจุมากขึ้นเพื่อใช้ใน Cloud Storage
อุตสาหกรรมรถยนต์ การผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 11.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออก เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศ การลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชน ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมอาหาร การผลิตในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 46.8% เพื่อรองรับผลผลิตสินค้าสำคัญที่เพิ่มขึ้นได้แก่ น้ำตาลทรายดิบ แป้งมันสำปะหลัง น้ำมันปาล์มดิบ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ทูน่ากระป๋อง ซาร์ดีนกระป๋องและไก่แช่เย็นและแช่แข็ง ประกอบกับภาพรวมการบริโภคในประเทศขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง