นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการส่งออกของไทยไปประเทศเพื่อนบ้านขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเป็นสังคมเมืองและชนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภค เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตเพิ่มมากขึ้น ขณะที่สินค้าไทยเป็นสินค้าคุณภาพดีเหมาะสมกับราคา การค้าขายสินค้าข้ามแดนจากไทยไปยังกัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา (Cambodia, Lao PDR and Myanmar : CLM) จึงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกไทยโดยเฉพาะ SMEs จำนวนไม่น้อยยังไม่มั่นใจที่จะค้าขายใน CLM เพิ่มอย่างก้าวกระโดดตามอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอุปสงค์สินค้าส่งออกไทย EXIM BANK จึงได้พัฒนาบริการ "ประกัน CLM" ซึ่งเป็นบริการประกันความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในกลุ่มประเทศ CLM ให้แก่ผู้ส่งออก SMEs ไทยที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อครั้ง และส่งออกภายใต้เทอมการชำระเงินสูงสุดไม่เกิน 90 วัน
จุดเด่นของบริการประกัน CLM คือ ผู้ส่งออก SMEs ไทยสามารถเลือกรูปแบบความคุ้มครองได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่กำหนดเอง ค่าเบี้ยประกันต่อกรมธรรม์เริ่มต้นเพียง 3,300 บาท ได้รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 90% ของมูลค่าความเสียหาย ซึ่งบริการนี้คุ้มครองกรณีผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธชำระเงินค่าสินค้า ประเทศผู้ซื้อเกิดสงคราม จลาจล ปฏิวัติ รัฐประหาร หรือห้ามโอนเงินออกนอกประเทศผู้ซื้อ ผู้สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับบริการประกัน CLM ได้ทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.exim.go.th ตลอดเวลา พิเศษลดค่าเบี้ยประกัน 50% หากสมัครใช้บริการภายในเดือนสิงหาคม 2561
ทั้งนี้ CLM เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับไทย และเป็นตลาดส่งออก 20 อันดับแรกของไทยมายาวนาน กัมพูชาเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 12 ของไทยด้วยมูลค่าส่งออกของไทยไปกัมพูชาในปี 2560 เท่ากับ 178,245 ล้านบาท และไทยเป็นประเทศอันดับที่ 2 ในการนำเข้าสินค้าของกัมพูชา สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ประกอบด้วยน้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย อัญมณีและเครื่องประดับ
ส่วน สปป.ลาว เป็นประเทศส่งออกในลำดับที่ 20 ของไทยด้วยมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยไป สปป.ลาว ในปี 2560 เท่ากับ 133,716 ล้านบาท และไทยเป็นประเทศอันดับที่ 1 ที่ สปป.ลาว นำเข้าสินค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ประกอบด้วยน้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์และอุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ อัญมณีและเครื่องประดับ
ขณะที่เมียนมาเป็นประเทศส่งออกในลำดับที่ 16 ของไทยด้วยมูลค่าส่งออกของไทยไปเมียนมา 146,084 ล้านบาทในปี 2560 และไทยเป็นประเทศอันดับที่ 3 ที่เมียนมานำเข้าสินค้า สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ประกอบด้วยน้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม น้ำตาลทราย เครื่องจักรและอุปกรณ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ประมาณ 30% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 2.81 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ลาว 2.3 หมื่นล้านบาท, กัมพูชา 2.2 พันล้านบาท, เมียนมา 2.7 พันล้านบาท และเวียดนาม 10 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อกลุ่มดังกล่าวขยายตัว 5-7% คิดเป็นมูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาท
นายพิศิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ EXIM BANK ตั้งเป้าหมายสินเชื่อเติบโต 9-10% คิดเป็นวงเงินเกือบ 1 แสนล้านบาท พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยลูกค้ากลุ่ม SMEs เพิ่มอีก 30% ส่วนแนวโน้มยอดเอาประกันในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยในช่วง 5 เดือนของปี 2561 (ม.ค-พ.ค.) มียอดเอาประกันแล้ว 5 ราย เนื่องจากคู่ค้ามีปัญหาเรื่องสภาพคล่องเทียบกับจากปี 2560 มียอดเอาประกัน 8-9 ราย
"ธนาคารมั่นใจว่าภาพรวมการส่งออกในปี 2561 จะขยายตัวได้สูงกว่า 8% อย่างแน่นอน เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงราคาสินค้าเกษตรด้วย และที่ผ่านมา ผู้ประกอบการไทยมีการปรับตัวได้เป็นอย่างดี ตลอดจนรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ออกมาอย่างต่อเนื่อง การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบมากขึ้น ตรงนี้จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของธนาคารในปีนี้ได้เป็นอย่างดี" นายพิศิษฐ์ กล่าว