นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะส่งผลดีต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจรากหญ้าที่บางส่วนปรับตัวดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีบางส่วนต้องรอปัจจัยเสริมจากราคาพืชผลทางการเกษตร อาทิ ทุเรียน ยางพาราให้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากขยายตัวได้ดีขึ้นตามไปด้วย
โดยในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือเหลือเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเติมเงินผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, การช่วยค่าครองชีพต่างๆ, การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อประกอบอาชีพผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากสามารถอยู่ได้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตึงตัวในช่วงที่ผ่านมา
"ปีนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายตัวปรับตัวดีขึ้น ทั้งข้าว ยางพารา ไปจนถึงทุเรียนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตรงนี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจฐานรากปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่เรามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจฐานรากมากกว่า 10 ปี บางช่วงดี บางช่วงไม่ดี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสริมเรื่องมาตรการในการให้ความช่วยเหลือที่รัฐบาลพยายามผลักดันออกมา รวมทั้งประชาชนฐานรากก็ต้องรู้จักปรับตัว หาอาชีพเสริม ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง รู้จักใช้จ่ายและรู้จักเก็บออมไปด้วย" ปลัดกระทรวงการคลังกล่าว
นายประสงค์ กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตั้งเครื่อง EDC ภาครัฐว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการไปหมดแล้ว 18,000 เครื่อง โดยการชำระเงินต่าง ๆ ต้องทำผ่านบัตรเดบิต ไม่สามารถรับเงินสดได้อีกต่อไป เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และลดปัญหาเงินรั่วไหลของรัฐบาล
ทั้งนี้ ได้มีการเพิ่มเป้าหมายจะติดตั้งเครื่อง EDC ให้ได้ 5 แสนเครื่อง จากขณะนี้ติดตั้งไปแล้ว 2 แสนเครื่องทั่วประเทศ เนื่องจากมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าเพื่อรับบัตรสวัสดิการภาครัฐจากผู้มีรายได้น้อย และยังมีร้านค้าที่มีเครื่อง EDC อยู่แล้ว แต่ต้องการติดตั้งเพิ่ม เนื่องจากมีลูกค้ามาใช้บริการมาก