สสว.เตรียมความพร้อมพา SME บุกตลาดอินเดีย-ไต้หวัน คาดสร้างมูลค่าการค้ากว่า 400 ล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 1, 2018 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและกลางย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว.ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดงานสัมมนา "เจาะลึกตลาดอินเดีย เทรนด์ไหนโดนใจ" เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และเตรียมความพร้อมในการนำผู้ประกอบการเปิดตลาดการค้ากับสาธารณรัฐอินเดีย หนึ่งในกลุ่มประเทศ BRICs อันประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ซึ่งมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 3,000 ล้านคน จากจำนวนประชากรโลกที่มีอยู่ 6,800 ล้านคน นับเป็นกลุ่มประเทศมหาอำนาจใหม่ในอนาคตที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยอินเดียถือเป็นดาวเด่นที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก มีประชากรสูงถึง 1,300 ล้านคน โดยสัดส่วนกลุ่มประชากรอินเดียที่มีระดับรายได้ปานกลางขึ้นไป หรือมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวประมาณ 3,400 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี มีจำนวนมากถึง 300 ล้านคน จึงถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง

โดย สสว.และ ส.อ.ท.จะคัดเลือกผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มของขวัญ ของชำร่วย ของตกแต่งบ้าน เครื่องหนัง และผลิตภัณฑ์สปา จำนวน 20 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Ambiente 2018 ระหว่างวันที่ 27-29 มิ.ย.นี้ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยงานดังกล่าวถือเป็นงานแสดงสินค้าระดับสากล การันตีโดยผู้จัดงานมืออาชีพจาก Messe Frankfurt ซึ่งในปี 2017 มีผู้ซื้อจากทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 8,000 ราย โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ สสว. ยังร่วมมือกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดงานสัมมนา "เจาะลึกตลาดไต้หวัน" เพื่อเตรียมความพร้อมนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 18 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า "Food Taipei" ระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.- 1 ก.ค.61 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ สสว.ได้สนับสนุนงบประมาณจากโครงการพัฒนาช่องทางตลาดสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปี 2561 ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมงานแสดงสินค้าร้อยละ 60 ถือเป็นการเสริมโอกาส สร้างพันธมิตร และขยายความสัมพันธ์กับเครือข่ายทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยและทั้งสองประเทศให้สามารถเริ่มต้นและพัฒนาให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ