นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ประธานกรรมการ นบข. ได้เห็นชอบให้กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ ออกประกาศการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 ปริมาณ 1.49 ล้านตัน และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 ปริมาณ 0.54 ล้านตัน ตามแผนการระบายที่คณะกรรมการ นบข.เห็นชอบ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2561 ข้าวในสต็อกของรัฐที่จะนำออกมาจำหน่ายมีทั้งหมด 14 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% เลิศ ข้าวปทุมธานี ข้าวปทุมธานี 5% ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมจังหวัด และปลายข้าว A1 เลิศ ปริมาณรวมทั้งสิ้น 1.49 ล้านตัน จำนวน 91 คลัง ใน 19 จังหวัด
2.การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 1/2561 ข้าวในสต็อกของรัฐที่จะนำออกมาจำหน่ายมีทั้งหมด 15 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวขาว 15% ข้าวขาว 25% เลิศ ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ ข้าวท่อนหอมจังหวัด ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวหอมมะลิ ปลายข้าวหอมจังหวัด ปลายข้าวปทุมธานี ปลายข้าว A1 เลิศ และปลายข้าว A1 ปริมาณรวมทั้งสิ้น 0.54 ล้านตัน จำนวน 80 คลัง ใน 27 จังหวัด
โดยกรมฯ จะเชิญผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการออกประกาศประมูล (TOR) ดังกล่าวในวันที่ 5 มิ.ย.61
"กรมฯ จะเปิดชี้แจงทีโออาร์วันที่ 5 มิ.ย.จากนั้นจะเปิดให้ดูคลังเก็บข้าววันที่ 8-11 มิ.ย. และให้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติวันที่ 12-13 มิ.ย. โดยจะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและให้ยื่นซองเสนอราคาของข้าวกลุ่ม 2 วันที่ 14 มิ.ย. เปิดซองเสนอราคาวันเดียวกัน ส่วนข้าวกลุ่ม 3 จะประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติและเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 15 มิ.ย. และเปิดซองเสนอราคาวันเดียวกัน จากนั้นจะประชุมคณะทำงานพิจารณาการระบายข้าวในวันที่ 19 มิ.ย. เพื่อสรุปผลการประมูลก่อนเสนอให้ประธาน นบข. อนุมัติขายได้ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้" นายอดุลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากประมูลขายไม่หมดก็จะนำออกมาเปิดประมูลอีกครั้งจนกว่าจะหมด และมั่นใจว่า น่าจะเปิดประมูลขายได้หมดภายในปีนี้ตามเป้าหมาย
ส่วนกรณีที่คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐได้ออกประกาศให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 ไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค.61 ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน ปรากฏว่ามีผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐจำนวน 35 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด จำนวน 9 ราย ใน 20 คลัง ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน โดยคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวได้พิจารณาราคาเสนอซื้อสูงสุดของผู้เสนอซื้อทุกรายเทียบเคียงกับราคาจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐที่ผ่านมา และได้สรุปผลการพิจารณาเสนอประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ซึ่งมอบหมายให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการ นบข.เป็นผู้ดูแล ได้ให้ความเห็นชอบการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 1/2561 ให้แก่ผู้เสนอซื้อสูงสุด จำนวน 9 ราย ใน 20 คลัง ปริมาณ 4.37 หมื่นตัน (คิดเป็น 100% ของปริมาณข้าวที่เปิดประมูล) มูลค่าเสนอซื้อ 534.08 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้กรมฯ จะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ชนะการประมูลเข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวสารกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ภายใน 15 วันทำการต่อไป
"ข้าวที่อนุมัติขาย 43,700 ตัน เป็นข้าวล็อตสุดท้ายของข้าวกลุ่ม 1 หรือข้าวเพื่อการบริโภค ถือว่าขายได้ในราคาดี โดยข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ราคาเสนอซื้อเฉลี่ยตันละ 18,000 บาท แต่ราคาเสนอซื้อสูงสุดถึงตันละ 22,000 บาท ส่วนข้าวขาว 5% ราคาเสนอซื้อเฉลี่ยตันละ 11,400 บาท" นายอดุลย์ กล่าว