นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX 2018 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย.2561 กรมฯ ได้นำกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสีที่ได้รับการรับรองจากจังหวัดว่าเป็นผู้ผลิตข้าวหอมมะลิไทยที่ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดและได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยจากกรมฯ และผู้ผลิตข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จำนวนรวม 17 ราย จาก 11 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี เข้าร่วมออกบูธกับกรมฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการท้องถิ่นเหล่านี้ได้มีโอกาสเรียนรู้การทำธุรกิจ การเจรจาธุรกิจ และขยายโอกาสในการจำหน่ายข้าวออกสู่ตลาดต่างประเทศ ปรากฎว่าได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ เป็นอย่างมาก และหลังจากที่กรมฯ ได้จัดให้มีเวทีการเจรจาธุรกิจ ก็ได้รับคำสั่งซื้อมากถึง 8,700 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 325 ล้านบาท ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น และข้าวจากผู้ประกอบการเหล่านี้ ได้มีโอกาสเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมมือกับกรมการข้าว จัดแสดงและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าว กข43 ซึ่งเป็นข้าวขาวพันธุ์ใหม่ที่รัฐบาลอยู่ในระหว่างการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวนาของไทยเพาะปลูก เนื่องจากเป็นข้าวที่มีคุณลักษณะพิเศษที่มีค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ในระดับปานกลาง-ต่ำ เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ห่วงใยในสุขภาพ โดยผู้เข้าร่วมชมงานสนใจสอบถามข้อมูลข้าว กข 43 เป็นจำนวนมาก ทั้งผู้บริโภคคนไทย กลุ่มเกษตรกรไทย และผู้ค้าข้าวจากต่างประเทศ เช่น จีน และไต้หวัน
"กรมฯ คาดว่า จะสามารถผลักดันข้าวดังกล่าวออกสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นแน่ และจะส่งผลดีให้มีตลาดรองรับผลผลิตข้าวที่จะออกสู่ตลาดในปีการผลิต 2561/62 ได้ต่อไป"
ทางด้านสถิติการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในช่วง 4 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) มีการส่งออกแล้วปริมาณ 583,156 ตัน มูลค่า 16,837.12 ล้านบาท โดยปัจจุบันราคาส่งออก F.O.B. ข้าวหอมมะลิไทยอยู่ที่ 1,238 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ จีน ฮ่องกง แคนาดา และสิงคโปร์ เป็นต้น