นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยอมรับว่าแนวโน้มอัตราหนี้เสียของธนาคารยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/61 ซึ่งอยู่ที่ 4.33% เนื่องจากลูกหนี้เก่าในกลุ่มเกษตรกร อาทิ โรงสี ลานมันสำปะหลัง ยังคงมีการผิดนัดชำระเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มลูกหนี้ใหม่ยังไม่น่ากังวล เพราะมีสัญญาณการผ่อนชำระอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ในไตรมาส 2/61 ธนาคารยังต้องกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้แนวโน้มหนี้เสียน่าจะเพิ่มขึ้นด้วย แต่เชื่อว่าจะไม่เกินระดับ 5% อย่างแน่นอน
"ทิศทางหนี้เสียของธนาคารในปีนี้ ยังเป็นอะไรที่แก้ไม่หาย เพราะลูกหนี้เก่าในกลุ่มเกษตร ยังมีสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในไตรมาส 2 นี้เราก็ได้ทำการกันสำรองเพิ่ม แต่เชื่อว่าทั้งปีแนวโน้มหนี้เสียของธนาคารจะเพิ่มขึ้น แต่คงไม่เกิน 5% แน่นอน"นายผยงกล่าว
พร้อมมองว่า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 2/61 เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน และมั่นใจว่าภาพรวมการปล่อยสินเชื่อจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้หลังจากไตรมาส 1/61 ยอดสินเชื่อใหม่ติดลบ 0.51% โดยขณะนี้ลูกหนี้กลุ่มลูกค้ารายย่อย และกลุ่ม SMEs ที่มีทิศทางการขอสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นชัดเจน ขณะที่ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ขยายตัวได้ดี ทำให้ตลอดทั้งปี 61 มั่นใจว่าธนาคารจะสามารถปล่อยกู้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 6-7%
สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น มาจากการฟื้นตัวของสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในไตรมาสแรกที่ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ขยายตัวถึง 4.8% รวมถึงแรงสนับสนุนของนโยบายจากภาครัฐ โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาช่วยค้ำประกันปล่อยกู้ให้ลูกค้า SME และสตาร์ทอัพ
รวมทั้งธนาคารมีการใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในการปล่อยกู้ โดยโฟกัสลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน เช่น กำหนดรูปแบบของสินเชื่อ การประเมินความเสี่ยง และอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขัน หรือหากเป็นกรณีลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะได้รับดอกเบี้ยอัตราที่ถูกกว่า ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่จัดรูปแบบปล่อยกู้แบบเหมารวม