นายดรุณ ซอว์เนย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พันธมิตรซอฟต์แวร์ (บีเอสเอ) เปิดเผยว่า บีเอสเอร่วมกับบริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกอย่างไอดีซี (IDC) ทำการสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลก โดยครั้งล่าสุดได้ทำการสำรวจใน 110 ประเทศทั่วโลก พบว่า อัตราการละเมิดลิขสิทธิซอฟต์แวร์ หรือการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ อยู่ที่ร้อยละ 37 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 46,302 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (1.48 ล้านล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 39 ในปี 2558 หากพิจารณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ฯ อยู่ที่ร้อยละ 57 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 16,439 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (526,048 ล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 61 ในปี 2558
สำหรับในประเทศไทย อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ อยู่ที่ร้อยละ 66 ในปี 2560 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 714 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (22,848 ล้านบาท) ลดลงจากร้อยละ 69 ในปี 2558 ตัวเลขในประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า ในจำนวนคอมพิวเตอร์ 100 เครื่อง มีการติดตั้งซอฟต์แวร์เถื่อน 66 เครื่อง ทั้งนี้ อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยลดลง โดยในภาพรวมเป็นผลจากการหดตัวของตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์อย่างเข้มงวด และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์อย่างต่อเนื่อง
การลดลงของอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทย เป็นผลมาจากการหดตัวของตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer - PC) ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ เรื่องภัยจากการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์อย่างต่อเนื่องของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ เหตุการณ์มัลแวร์เรียกค่าไถ่ระดับโลกอย่าง Wannacry ที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ทำให้องค์กรธุรกิจเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ซอฟต์แวร์แท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์ที่ช่วยเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากไอดีซี (IDC) ให้ความเห็นว่าการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปแจ้งเบาะแสการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายในองค์กรธุรกิจ ทำให้เกิดความตื่นตัวในการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มากขึ้น โดยเฉพาะในองค์กรธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องตามกฎหมายมากขึ้น
"ประเทศไทยกำลังพัฒนาไปสู่ยุคระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทำให้มีความต้องการใช้งานเทคโนโลยี โดยเฉพาะซอฟต์แวร์มากยิ่งขึ้น องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการการใช้งานซอฟต์แวร์เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ขององค์กร เพราะการบริการจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ (Software Asset Management – SAM) ตลอดจนการอัปเดตซอฟต์แวร์และระบบรักษาความปลอดภัยให้ทันสมัยอยู่เสมอ เป็นหนทางหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบความมั่นคงปลอดภัยองค์กร นอกจากนี้ การจัดการที่ดีด้านการใช้งานซอฟต์แวร์ ยังช่วยให้องค์กรลดต้นทุนด้านซอฟต์แวร์ และเพิ่มผลกำไรในการประกอบการได้อีกด้วย" นาย ดรุณ กล่าว
ด้านนางสาววารุณี รัชตพัฒนากุล ผู้จัดการประจำประเทศไทยของบีเอสเอ กล่าวว่า อัตราการใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์ในประเทศไทย ลดลงร้อยละ 3 ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ยังสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 57 แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทุกภาคส่วนยังต้องช่วยกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังต่อไป และการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ยังช่วยลดความเสี่ยงภัยไซเบอร์ เพราะซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มักจะมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย ทำให้ง่ายต่อการติดมัลแวร์
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ในองค์กรธุรกิจเท่านั้น ภาครัฐถือเป็นผู้ใช้งานซอฟต์แวร์รายใหญ่ หากทุกหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการใช้งานซอฟต์แวร์ที่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิถูกต้องและครบถ้วน จะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ภาคเอกชน และประชาชนโดยทั่วไป ที่สำคัญไปกว่านั้น การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีไลเซ่นส์ถูกต้อง ถือเป็นวิธีขั้นพื้นฐานในการป้องกันภัยไซเบอร์ เพราะซอฟต์แวร์ที่ไม่มีไลเซ่นส์ จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดมัลแวร์ และการถูกจู่โจมจากอาชญากรไซเบอร์ นอกจากนั้น หน่วยงานภาครัฐเป็นผู้ควบคุมข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน หน่วยงานภาครัฐจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้ซอฟต์แวร์ที่มีไลเซ่นส์ถูกต้องตามกฎหมาย และมีการบริหารจัดการสินทรัพย์เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งรวมถึงซอฟต์แวร์ ให้ได้มาตรฐานด้วย
การสำรวจการใช้ซอฟต์แวร์ทั่วโลกประจำปี 2560 ของบีเอสเอ ใช้วิธีคำนวณจำนวนและมูลค่าของซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ติดตั้งอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในกว่า 110 ประเทศทั่วโลก และมีการเก็บข้อมูลความคิดเห็นของผู้บริโภคที่ใช้ซอฟต์แวร์ พนักงานบริษัท และเจ้าหน้าที่ผู้บริหารระดับสูงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กร จำนวนเกือบ 23,000 คน จากผลการสำรวจและบทวิเคราะห์ พบว่าผู้บริหารด้านเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง โดยส่วนใหญ่มีความเห็นว่า หากองค์กรธุรกิจใช้ซอฟต์แวร์โดยไม่มีไลเซ่นส์ถูกต้อง มีโอกาสสูงที่จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายขององค์กรมีโอกาสถูกจู่โจมจากผู้ประสงค์ร้าย นำมาซึ่งความเสียหายอื่นๆ เช่น สูญเสียข้อมูลสำคัญขององค์กร