นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่าบริษัทยาต่างประเทศได้จดทะเบียนสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชาในไทยแล้วตั้งแต่ปี 53 นั้น เป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากไทยยังไม่ได้รับจดทะเบียนสิทธิบัตรดังกล่าวแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา พบว่าคำขอดังกล่าวมีผู้ยื่นไว้เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.53 และยังไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบการประดิษฐ์ ตามเงื่อนไข
ทั้งนี้ กฎหมายสิทธิบัตร มาตรา 9 กำหนดว่า การประดิษฐ์ที่จะได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรได้นั้น จะต้องไม่เป็นการประดิษฐ์ที่ต้องห้าม เช่น สารสกัดจากพืช วิธีการบำบัดรักษาโรคมนุษย์หรือสัตว์ เป็นต้น และยังต้องเป็นไปตามเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุ ได้แก่ เป็นการประดิษฐ์ใหม่ เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และสามารถประยุกต์ใช้ได้ในทางอุตสาหกรรม
"สารสกัดจากพืชตามข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมานั้น ย่อมไม่อาจรับจดทะเบียนสิทธิบัตรได้ จึงขอให้ประชาชนและนักวิจัยอย่ากังวลในเรื่องนี้ และการจะจดสิทธิบัตรแต่ละฉบับ ยังมีขั้นตอนต้องพิจารณาอีกมาก เรื่องนี้ได้กำชับกรมทรัพย์สินทางปัญญาไปแล้วว่าให้พิจารณาอย่างรอบคอบ เฝ้าระวัง และดำเนินการตามเงื่อนไขของกฎหมายอย่างเคร่งครัด" รมว.พาณิชย์กล่าว
สำหรับหลักการจดสิทธิบัตรของไทยนั้น สิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เช่น สัตว์ พืช หรือสารสกัดจากสัตว์หรือพืช ไม่สามารถขอรับความคุ้มครองได้ และไม่เปิดโอกาสให้บุคคลใดอ้างสิทธิเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว ขณะเดียวกัน กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะดำเนินการตรวจสอบสิทธิบัตรตามกฎหมายสิทธิบัตร และปฏิบัติตามคู่มือการตรวจสอบสิทธิบัตร ซึ่งได้จัดทำโดยรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และจะไม่ทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน