นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว นำตัวแทนเกษตรกร ประกอบด้วย ประธานศูนย์ข้าวชุมชนระดับจังหวัดจากทั่วประเทศ ชาวนาที่ได้รับรางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรดีเด่น ประจำปี 2561 นายกและผู้แทนสมาคมชาวนา 8 สมาคม และชาวนารุ่นใหม่ รวมทั้งสิ้น 300 คน เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การรวมกลุ่มของเกษตรกรชาวนา จะทำให้เกิดความเป็นเอกภาพในการพัฒนาด้านข้าวและเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาต่างๆให้ประสบผลสำเร็จ เกษตรกรต้องเรียนรู้ว่าตลาดข้าวต้องการอะไร นอกจากปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว ทุกวันนี้ไทยยังส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ยังคงเป็นเชิงปริมาณ ซึ่งรัฐบาลต้องการให้ชาวนาได้รับประโยชน์ในแง่ของราคาขายที่เพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับปริมาณการส่งออก
พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลต้องการยกระดับชาวนาไทย ไม่ใช่ทำนาเพียงอย่างเดียว แต่ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริม เพื่อให้ชาวนาก้าวไปยุค 4.0 ให้เป็นกระดูกสันหลังของชาติที่ตั้งตรงขึ้น ไม่ใช้ก้มหน้าก้มตาเหมือนเมื่อก่อน ดังนั้นรัฐบาลจึงมีการวางโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการสร้างรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เกิดการขนส่งได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้แม้จะมีตัวเลขด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่รัฐบาลก็ไม่เคยที่จะละเลยมองปัญหาระดับล่างว่าสิ่งที่ดีขึ้นส่งกลับมายังในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะแก้ปัญหา
"หากกลุ่มชาวนามีปัญหา อยากให้หันหน้ามาหารือกันอย่างมีเอกภาพ ไม่ใช่ออกมาเรียกร้องเพียงอย่างเดียว เพราะรัฐบาลจะต้องใช้งบประมาณที่มีอยู่ดูแลคนทุกกลุ่ม แต่จะเรียกร้องให้อุดหนุนด้านข้าวอย่างเดียว บางครั้งไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องเฉลี่ยงบประมาณในทุกๆด้าน พร้อมกันนี้อยากให้ชาวนาคำนึงว่า หากใครให้ราคาข้าวสูงเกินกลไกตลาด ถึงแม้ว่าจะชอบ แต่ถือเป็นภาระงบประมาณที่เกิดขึ้นในประเทศ"นายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมกับย้ำว่า วันนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าว ต้องร่วมมือกันให้มีกระบวนการควบคุมการผลิตที่สามารถลดต้นทุน รักษาหรือเพิ่มคุณภาพข้าว ที่สำคัญคือการกำหนดพื้นที่เพาะปลูก และปริมาณข้าวผลผลิตโดยรวมให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของตลาดหรือเรียกว่า แนวทางการตลาดนำการผลิต เพื่อส่งผลด้านราคาและทำให้ชาวนาสามารถควบคุมราคาข้าวในตลาดและมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
"วันนี้ประเทศไทยจะต้องใช้การศึกษาเพื่อนำมาแปรรูปผลผลิตข้าวไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เช่น การนำข้าวอ่อนมาผลิตเป็นน้ำนมข้าว ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้ชาวนามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลได้วางแนวทางการแก้ปัญหาให้กับชาวนาและเกษตรกรทุกประเภท แบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว ทั้งเรื่องของการบริการจัดการน้ำ และการควบคุมปริมาณการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด"พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากทุกนโยบาย โดยยืนยันเจตนาอันบริสุทธิ์ของตนเอง และรู้ตัวว่าต้องเข้ามาทำหน้าที่เพื่ออะไร หากย้อนเวลากลับไปได้ ตนเองไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่ และหากปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย จะเกิดสงครามกลางเมืองหรือไม่ ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเชื่อใจว่าตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรีจะไม่ทรยศประเทศชาติ นโยบายต่างๆ มีความชัดเจน ที่ไม่ต้องการให้เกิดการทุจริต เพียงแต่ต้องไปติดตามตรวจสอบในระดับปฏิบัติ และในส่วนความร่วมมือของต่างประเทศ ยืนยันว่าต่างประเทศเข้าใจการทำงานของตนเอง แต่ก็ต้องยอมรับในเรื่องของกฎหมายแต่ละประเทศ และไทยก็พร้อมร่วมมือกับทุกคน ในส่วนของตนนั้น ยืนยันว่าการทำหน้าที่ไม่ต้องอายใคร เพราะมั่นใจในการทำความดี
นากยรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ต่อสู้กับปัญหาที่เจออยู่ และไม่เคยทิ้งประชาชน และวันนี้ก็มุ่งมั่นทำเพื่อคนไทย 70 ล้านคน
โอกาสนี้ นายชัชวาลย์ ท้าวมะลิ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ในฐานะผู้นำชาวนา 9 องค์กร ได้นำกล่าวปฏิญาณชาวนา ต่อหน้านายกรัฐมนตรี ว่า ชาวนาไทยจะรักชาติ และจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และดำรงตนเป็นพลเมืองดี อยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ชาวนาไทยจะเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อความเป็นเอกภาพความเป็นปึกแผ่นและความเข้มแข็งของชาวนาไทยทั้งประเทศ โดยการรวมตัวกันเป็นองค์กรชาวนาเพียงหนึ่งเดียว เพื่อนำพาชาวนามุ่งสู่ยุคประเทศไทย 4.0 อันจะก่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน และชาวไทยจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ตลอดจนองค์กรต่างๆอย่างเต็มกำลัง บนพื้นฐานของความเสมอภาคและสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนางานด้านข้าวและชาวนาของประเทศให้เจริญก้าวหน้า สามารถดำเนินการผลิตข้าวเพื่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศต่อไป
ตัวแทนสมาคมชาวนาบางส่วนที่เดินทางมา ได้สวมใส่เสื้อสีฟ้าที่เขียนข้อความด้านหลังว่า "กองหนุนลุงตู่ By FOS" (Friend of Somkid Jatusripituk) ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรีเห็นเสื้อดังกล่าวก็ตกใจ และสอบถามว่าใครเป็นคนทำ เกรงว่าตนเองจะถูกวิจารณ์อีก