นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2561 เนื่องในโอกาสการฉลองครบรอบ 85 ปี หอการค้าไทยจะได้ริเริ่มจัดงาน "หอการค้าแฟร์" หรือ TCC Fair ในระดับภูมิภาค โดยจะเริ่มจัดในภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ เป็นแห่งแรก และจะหมุนเวียนไปยังภูมิภาคอื่นๆ อาทิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในไตรมาสแรกของปีหน้า
การจัดงานดังกล่าวถือเป็นความตั้งใจของหอการค้าไทยที่ต้องการยกระดับมาตรฐานงานแสดงสินค้าในระดับภูมิภาค เพื่อกระจายรายได้ไปยังท้องถิ่น กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือ SME ที่มีศักยภาพในการขยายตลาด เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
"เป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทย โดยได้รวบรวมความเป็นที่สุดจากบริษัทของคณะกรรมการ สมาชิก ผู้ประกอบการต่างๆ และเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ในการประชาสัมพันธ์สินค้า การท่องเที่ยว และบริการ เป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางการตลาด ตลอดจนสร้างความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่ายให้เกิดความเข้มแข็งทั้งในระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคชุมชน ในรูปแบบของประชารัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนที่สำคัญ ในระดับภูมิภาค (เมียนมา, ลาว, จีนตอนใต้)" นายกลินท์กล่าว
พร้อมระบุว่า "งานหอการค้าแฟร์" จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 7 ตุลาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ โดยคาดว่างานนี้จะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดี สอดคล้องกับการดำเนินงานของหอการค้าไทยในโครงการสำคัญ อาทิ โครงการไทยเท่ และคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ MICE (D3) ที่มุ่งเน้นในการกระตุ้นการใช้จ่ายในภูมิภาค กระจายรายได้ สร้างอัตลักษณ์ท้องถิ่นซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่น รวมทั้งการขยายตัวจากการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศไทยในภาพรวมต่อไป
ด้านนายกฤษณะ วจีไกรลาศ ประธานคณะกรรมการแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ หอการค้าไทย กล่าวว่า งานหอการค้าแฟร์ ได้มีการผนึกกำลังจากผู้ประกอบการสินค้าชั้นนำของไทยทั้งส่วนกลาง ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ มีความทันสมัยและนวัตกรรมที่โดดเด่นในส่วนภูมิภาค นำโดยหอการค้าจังหวัด และเครือข่ายพันธมิตร มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าภายในงานฯ ภายใต้ Concept "งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อผู้บริโภค" (The Regional Trade Consumer & Lifestyle Exhibition) อีกทั้งได้มีการประชาสัมพันธ์งานครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV และกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ ผ่านเครือข่ายพันธฺมิตรของหอการค้าไทยในประเทศต่าง ๆ
โดยมีบริษัทชั้นนำที่เข้าร่วมงาน อาทิ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท ซี แวลู จำกัด (มหาชน), บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
นายกฤษณะ กล่าวถึงความคาดหวังการจัดงานหอการค้าแฟร์ว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเหนือ อันจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เป็นการจุดประกายและสร้างความตระหนักให้ผู้เข้าเยี่ยมชมงานเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก เกิดการเชื่อมโยงร่วมคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0
"หอการค้าไทย คาดว่าการจัดงานดังกล่าวจะมีรายได้หมุนเวียน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค ส่งเสริมให้เกิดการบริโภค และการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง และจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจในระดับประเทศต่อไป" นายกฤษณะ กล่าว