นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย. 61 ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ปรับลดลงเล็กน้อยจากเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จากระดับ 54.90 จุด มาอยู่ที่ระดับ 52.00 จุด ลดลง 2.90 จุด หรือคิดเป็น 5.29% ซึ่งดัชนีที่ปรับลดลง นั้น น่าจะมีปัจจัยหลักมาจากนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในการประชุมนโยบายดอกเบี้ยกลางเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตรการว่างงาน เป็นต้น
สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน โดยก่อนหน้านี้ทางทำเนียบขาว แถลงการณ์ จะประกาศรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 25% และจะมีผลบังคับใช้จริงในเดือนมิ.ย.นี้ ส่วนจีนออกมาระบุว่า ผลการเจรจาที่ผ่านมาจะกลายเป็นโมฆะทันทีหากสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเก็บภาษีสินค้าจีน
ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามทางการค้า อย่างเป็นรูปธรรม สร้างความกังวลว่าเศรษฐกิจฯ และเศรษฐกิจโลกอาจชะลอการขยายตัว
การประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯและผู้นำเกาหลีเหนือ กลุ่มตัวอย่างตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะสามารถผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกันได้หรือไม่ และความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือจะได้ข้อยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ เพราะปัจจุบันเป็นเพียงข้อตกลงหยุดยิงเท่านั้น
อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในกลุ่มประเทศยุโรป กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของประเทศต่างๆ ในกลุ่มยุโรป และความเสี่ยงเกี่ยวกับความมั่นคงของสหภาพยุโรป (EU) จะเป็นปัจจัยที่อาจกระทบต่อราคาทองคำ โดยเฉพาะการแยกตัวออกจาก EU เริ่มจาก Brexit ของอังกฤษ และขณะนี้เริ่มกลับมาพูดถึง Italexit ของอิตาลี โดยจุดยืนของอิตาลีในสหภาพยุโรปยังมีความไม่แน่นอนสูง และต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมีปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง กลุ่มตัวอย่างให้ความเห็นว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่าน พร้อมกับประกาศว่าสหรัฐฯจะคว่ำบาตรอิหร่านในระดับที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นปัจจัยเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้นในตะวันออกกลาง และประเด็นนี้เกี่ยวโยงกับตลาดน้ำมันและการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.นี้
จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 325 ตัวอย่าง พบว่า 53.23% ของกลุ่มตัวอย่าง คาดว่าจะซื้อทองคำในช่วงเดือน มิ.ย. 2561 ขณะที่ 32.62% ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำหรือไม่ ส่วนอีก 14.15% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำในช่วงเดือน มิ.ย.61
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 10 ตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน มิ.ย. 61 จะลดลงจำนวน 4 ราย และคาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับราคาทองเมื่อเดือน พ.ค.61 ที่ผ่านมา มีจำนวน 3 ราย ส่วนคาดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้น มีจำนวน 3 ราย
สำหรับการคาดการณ์ราคาทองเดือน มิ.ย.61 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ Gold Spot ให้กรอบราคาเฉลี่ยอยู่บริเวณ 1,274 – 1,329 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบราคาเฉลี่ยอยู่บริเวณ 19,400 – 20,100 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ และด้านค่าเงินบาทไทย ให้กรอบราคาเฉลี่ยอยู่บริเวณ 31.60 – 32.50 บาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
การลงทุนทองคำในเดือน มิ.ย.61 ผู้ค้าทองรายใหญ่มองราคาทองย่อตัวสะสมแรงซื้อ โดยหากสามารถยืนอยู่เหนือบริเวณ 1,280 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อทรอยออนซ์ได้ คาดว่าราคาทองคำจะค่อยๆ ขยับทดสอบแนวต้านได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,325 ไปได้ แนะนำให้นักลงทุนทำกำไรระยะสั้น