นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการเปิดไต่สวนสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นำเข้าจากต่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา (National Security) ซึ่งหากผลการไต่สวนเป็นที่สิ้นสุด และพบว่าการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากประเทศใดส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ แล้ว ประธานาธิบดีฯ สามารถออกกฎหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศผู้ส่งออกได้ โดยจะทำให้สินค้าดังกล่าวมีราคาสูงขึ้นจนอาจสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันในตลาดได้
ก่อนหน้านี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือกับผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนของไทยแล้ว เพื่อหาแนวทางรับมือหากสหรัฐฯปรับขึ้นภาษีนำเข้าจริง โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ไทย จะเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อชี้แจงกับสหรัฐฯ ว่าการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนของไทย ไม่ได้กระทบต่ออุตสาหกรรมภายใน และกระทบความมั่นคงของสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากไทยเป็นอันดับที่ 18 มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากมูลค่านำเข้าจากทั่วโลก 290,000 ล้านเหรียญฯ และขอให้ยกเว้นการเก็บภาษีกับไทย ขณะที่ภาคเอกชนก็ต้องเตรียมข้อมูลส่งให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯพิจารณาเช่นกัน
โดยตามขั้นตอนของการไต่สวน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะเปิดรับความเห็น ข้อมูล ข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย และสาธารณชนทั่วไป เพื่อประกอบการพิจารณาผลกระทบของสินค้านำเข้าดังกล่าวที่มีต่ออุตสาหกรรมภายในของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯจะเปิดให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยื่นข้อคิดเห็นเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแจ้งความประสงค์ในการปรากฏตัวต่อสาธารณะเพื่อให้ความเห็นได้จนถึงวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามเว็บไซต์ www.regulations.gov ขณะเดียวกัน จะเปิดให้ผู้มีส่วนได้สวนเสียของสหรัฐฯ แสดงความเห็นโต้แย้งต่อความเห็นจากประเทศต่างๆ ที่ได้ยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้ ได้จนถึงวันที่ 6 ก.ค.นี้ และจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะระหว่างวันที่ 19-20 ก.ค.นี้
"ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของไทย สามารถยื่นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลด้านการผลิต ปริมาณการส่งออก ปริมาณความต้องการของไทยและอัตราการขยายตัว การใช้แรงงาน การใช้วัตถุดิบ ผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของสหรัฐฯ เป็นต้น ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งกรมฯจะเร่งติดตามความคืบหน้า และเมื่อมีการประกาศผลการพิจารณาอย่างไร กรมฯจะเผยแพร่ให้หน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องรับทราบทันที"
นายอดุลย์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดการไต่สวนกรณีผลกระทบจากการนำเข้า รถยนต์อเนกประสงค์ (Sports Utility Vehicles : SUVs) รถตู้ (Van) รถบรรทุกขนาดเล็ก (Light Trucks) และชิ้นส่วนยานยนต์ (Automotive Parts) ต่อศักยภาพการผลิตสินค้าดังกล่าวของประเทศ โดยถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 270 วัน แล้วเสนอผลการไต่สวนและข้อเสนอแนะต่อประธานาธิบดีให้พิจารณาตัดสินใจภายใน 90 วัน หากเห็นด้วยกับผลการไต่สวนที่เสนอ ประธานาธิบดีฯ สามารถขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากประเทศผู้ถูกไต่สวนทันที