ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.43 ยังอ่อนค่าต่อเนื่องรับผลประชุม ECB-มีแรงซื้อดอลล์ มองกรอบต้นสัปดาห์หน้า 32.30-32.50

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 15, 2018 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.30 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องรับข่าวผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ยังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามาหลังที่ ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้"

ทั้งนี้ ระหว่างวันค่าเงินบาทได้ขึ้นไปทดสอบ High ที่ระดับ 32.46 บาท/ดอลลาร์ ถือเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 5 เดือนนับจากวันที่ 2 ม.ค.61 ซึ่งวันเปิดทำการแรกของปี 61

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบต้นสัปดาห์หน้าไว้ระหว่าง 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.56 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 110.55 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1595 ดอลลาร์/ยโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1564 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,704.82 จุด ลดลง 5.04 จุด, -0.29% มูลค่าการซื้อขาย 68,841.20 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 7,460.12 ลบ.(SET+MAI)
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจในเดือนพฤษภาคม 2561 พบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจด
ทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 5,865 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561
จำนวน 5,120 ราย เพิ่มขึ้น 745 ราย คิดเป็น 15% และเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวน 5,832 ราย เพิ่มขึ้น 33
ราย คิดเป็น 1%
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า ตามที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศ
ลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน พร้อมทั้งส่งสัญญาณยุติมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร (Asset Purchase Programme: APP) ใน
การประชุมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ตามที่ตลาดคาดนั้น จะทำให้ค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ อาจมีความผันผวนสูงในระยะ
สั้น แต่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไป อีไอซีประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อของกลุ่มยูโรโซนจะสามารถขยายตัวได้ ตามที่ ECB คาด ทำให้ ECB สามารถยุติการเข้าซื้อพันธบัตรและสื่อสารถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ชัดเจนขึ้น ขณะที่ Fed จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลง เพราะเริ่มเข้าใกล้ดอกเบี้ยนโยบายระยะยาว (neutral rate) จึงทำให้ส่วนต่างอัตรา ดอกเบี้ยคาดการณ์ (forward) จะกลับมาแคบลง ค่าเงินยูโรจึงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากในระดับปัจจุบันที่ 1.16 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ ยูโร สู่ระดับ 1.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อยูโร ในช่วงสิ้นปี 2561

  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุก ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นใน
วันนี้ โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่าเป้าหมาย แม้ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม
  • ธนาคารกลางฝรั่งเศสปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำปี 2561 หลังจากที่เศรษฐกิจ
ชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้อนุมัติมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 5 หมื่นล้าน
ดอลลาร์ โดยคณะทำงานของปธน.ทรัมป์เตรียมเปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวันนี้
  • ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้แถลงเตือนในวันนี้ว่า นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าของ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะส่งผลกระทบต่อระบบการค้าโลก รวมถึงทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐ และเป็นเหตุให้นานา
ประเทศออกนโยบายโต้กลับ

นโยบายภาษีของสหรัฐจะทำลายเศรษฐกิจในวงกว้าง เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้กระตุ้นให้ประเทศคู่ค้ายักษ์ใหญ่อย่าง แคนาดาและเยอรมันออกมาตรการโต้กลับสหรัฐ

นอกจากนี้ IMF ยังมีมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐในช่วงการนำของรัฐบาลปธน.ทรัมป์อาจขยายตัวไม่ได้ดีเท่าที่ควร

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยจะมีการประชุมในวันพุธที่ 20 มิถุนายน 2561 ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย
นโยบายไว้ที่ 1.50%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ