นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยกรณีที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเรียกร้องของสภาผู้ผลิตสุกรแห่งสหรัฐฯ ที่ขอให้ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สินค้าไทย เพราะไทยไม่เข้าข่ายประเทศที่ได้รับสิทธิในด้านการเปิดตลาดให้กับสหรัฐฯ อย่างเป็นธรรมและสมเหตุผล เนื่องจากไม่เปิดตลาดนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ยื่นคำร้องไม่ให้สหรัฐฯ ตัดสิทธิสินค้าไทยดังกล่าวไปแล้ว
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา และจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) ซึ่งฝ่ายไทยจะมีสำนักงานมาตรการสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และสำนักงานพาณิชย์ไทยในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (ทูตพาณิชย์) เป็นผู้ชี้แจงกับสหรัฐฯ
"เรื่องการเปิดตลาดนำเข้าหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงจากสหรัฐฯ มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงเกษตรฯ เป็นแม่งาน และเป็นผู้เจรจากับสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ไม่ใช่หน่วยงานรับผิดชอบหลัก" อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าว
ส่วนกรณีที่ญี่ปุ่นจะตัดสิทธิ GSP สินค้าไทยไทยตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.62 เพราะไทยมีระดับการพัฒนาประเทศที่สูงขึ้น และได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงนั้น นายอดุลย์ กล่าวว่า ผู้ส่งออกไทยไม่ต้องกังวล เพราะไทยสามารถใช้สิทธิส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ทั้งกรอบไทย-ญี่ปุ่น และอาเซียน-ญี่ปุ่นได้อยู่แล้ว ยกเว้นสินค้ารายการเดียว คือ ไซลิทอล ซึ่งเป็นสารให้ความหวานแคลอรี่ต่ำที่การส่งออกภายใต้ GSP ถูกเก็บภาษีนำเข้า 10% เมื่อไม่ได้ GSP จะต้องกลับมาเสียภาษีในอัตราปกติที่ 17% โดยในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปีนี้ ไทยส่งออกสินค้าดังกล่าวไปญี่ปุ่นมูลค่า 928,808 เหรียญสหรัฐฯ