ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เปิดแอพ Self-Reporting จับมือเอกชนพัฒนา-ยกระดับฐานข้อมูลประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 21, 2018 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้จัดทำแอพพลิเคชั่น Self-Reporting เพื่อจัดเก็บรวบรวมข้อมูลโครงการที่อยู่อาศัยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และขอความร่วมมือผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้เป็นผู้กรอกข้อมูลที่เป็นปัจจุบันส่งกลับมายังศูนย์ข้อมูลฯ ซึ่งในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.61 ศูนย์ข้อมูลฯ ได้จัดประชุมชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดทำแอพพลิเคชั่น และขอความร่วมมือดังกล่าวผ่านสมาคมด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยมาครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ 9 สมาคมใน 4 ภูมิภาค

"การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือจัดทำข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นที่แสดงถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ และเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการรวบรวมข้อมูลและจัดทำฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์สถานการณ์ของตลาด เพื่อนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจต่อการดำเนินธุรกิจของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และช่วยเพิ่มขีดความสารถของผู้ประกอบการในการแข่งขัน และสิ่งที่สำคัญคือจะช่วยลดจำนวนสต็อกในตลาดที่เหลืออยู่ให้ลดลง และทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่เกิดภาวะฟองสบู่" นายสุรชัย กล่าว

ขณะเดียวกัน 14 สมาคมด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย จะให้ความร่วมมือสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ จะช่วยกันรายงานข้อมูลผ่าน Self-Reporting Application บนระบบอินเตอร์เน็ตที่ศูนย์ข้อมูลฯ ได้พัฒนาขึ้น ระบบนี้จะมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นอย่างดี โดยจะไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแต่ละบริษัท ผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือกรอกข้อมูลผ่านระบบจะได้รับข้อมูลรายงานภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยเป็นรายไตรมาส

ทั้งนี้ การมีฐานข้อมูลจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายในการสำรวจข้อมูลการตลาด และศูนย์ข้อมูลฯ สามารถติดตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่อยู่อาศัยที่เป็นข้อมูลปัจจุบัน ซึ่งภายหลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้แล้ว ศูนย์ข้อมูลฯ จะเดินทางไปแต่ละจังหวัดเพื่อประชุมกับสมาชิกของแต่ละสมาคมและแนะนำการใช้งานแอพพลิเคชั่น เพื่อรวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และคาดว่าจะเริ่มนำข้อมูลไปใช้ได้จริงช่วงไตรมาส 4/61

นอกจากนี้ ธอส.อยู่ระหว่างการเตรียมแยกศูนย์ข้อมูลฯ ออกมาจัดตั้งเป็นนิติบุคคล จากปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อให้ศูนย์ข้อมูลมีการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ และเป็นการลดต้นทุนให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีการใช้เงินไปกับศูนย์ข้อมูลเฉลี่ย 50-70 ล้านบาท/ปี โดยที่การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลฯ เป็นนิติบุคคลนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์คาดหวังที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดปัจจุบัน

อีกทั้งยังมีแผนการเพิ่มการบริการใหม่ๆ เข้ามา นอกเหนือจากการให้บริการด้านข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างรายได้ใหม่ให้กับศูนย์ข้อมูล เช่น การเป็นนายทะเบียนเพื่อรับจดทะเบียนนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ การขายบ้านมือสองผ่านช่องทางออนไลน์ โดยที่ศูนย์ข้อมูลฯ จะซื้อทรัพย์รอการขายจากกรมบังคับคดี มูลค่า 2 แสนล้านบาท มาประมูลขายผ่านระบบออนไลน์ แต่ยังต้องรอกฏหมายผ่านกฤษฎีกา เพื่อให้กรมบังคับคดีขายทรัพย์ได้ ซึ่งกรมบังคับคดีจะเซ็น MOU กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อจะขายทรัพย์ให้ศูนย์ข้อมูลในช่วงเดือนก.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ