พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับคณะเอกชนไทย ได้แก่ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ประธานหอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย, ผู้บริหาร Thai Union Food, Loxley, มิตรผล, PTT, GC, Sea Vlaue, Double A, Michelin, Siam, ป่าใหญ่ครีเอชั่น และทวีบูรพา เป็นต้น โดยได้กล่าวขอบคุณภาคเอกชนที่ร่วมเดินทางมาฝรั่งเศส และที่ผ่านมาความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนของไทยกับฝรั่งเศสได้ช่วยสร้างพลวัตที่สาคัญในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ฝรั่งเศสเป็นผู้เล่นรายใหม่ในภูมิภาค เช่น ACMECS, CLMV และ ASEAN โดยในการหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะได้หยิบยกเรื่องการสนับสนุนการลงทุนของไทยในฝรั่งเศส และจะได้ขอให้มีการขจัดปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ร่วมกันต่อไป
ขณะที่ผู้แทนภาคเอกชนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าการลงทุนในฝรั่งเศสว่ายังมีโอกาสและศักยภาพอีกหลายสาขา และภาคการลงทุนที่ฝรั่งเศสสนใจและสอดรับกับนโยบาย Thailand 4.0 ได้แก่ เกษตร และ Bio Economy โครงสร้างพื้นฐาน Smart City พลังงานรูปแบบใหม่ การท่องเที่ยว และ Ease of Doing Business ทั้งนี้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องที่ฝากรัฐบาลช่วยผลักดัน เช่น กฎหมายภาษีของฝรั่งเศสที่แก้ไขการสนับสนุนการใช้วัตถุดิบจากไทย การผลักดันเรื่อง FTA เพื่อสินค้าเกษตร
และในการเยือนครั้งนี้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจและลงนามสัญญาระหว่างภาคเอกชนไทยกับฝรั่งเศสด้วยรวม 3 ฉบับ ได้แก่ (1) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาในการพัฒนา SMEs และแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้า นโยบายและพิธีศุลกากร ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับ International Chamber of Commerce (2) กรอบความร่วมมือสัญญาว่าจ้างติดตั้งระบบ Ditigalization และ Visualization ในการวิเคราะห์ข้อมูล ระหว่างบริษัท PTT GC กับ Dassault System และ (3) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนา Smart City ระหว่างบริษัท Loxley กับ POMA สะท้อนให้เห็นถึงพลังของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้เอกชนไทยและฝรั่งเศสร่วมงาน Transforming Thailand : Thailand-France Partnership ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส และสภานายจ้างฝรั่งเศส ร่วมกับสำนักงาน BOI ได้ร่วมกันจัดงานนี้ เพื่อชี้แจงโอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุนของไทยในเขต EEC แล้ว ยังเป็นจะได้สร้างเครือข่ายกับสภานายจ้างฝรั่งเศสหรือ MEDEF ซึ่งเป็นสมาพันธ์นายจ้างที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากหลากหลายธุรกิจของฝรั่งเศสเป็นสมาชิกมากกว่า 750,000 บริษัท ถือเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลสูง ในวงการการเมืองฝรั่งเศส การสร้างเครือข่ายกับองค์กรนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจในฝรั่งเศสต่อไป สำหรับการทำธุรกิจในต่างประเทศจำเป็นต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดี ความเข้าใจในวัฒนธรรม การทำงาน สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและการเมือง ภาครัฐของไทย พร้อมจะสนับสนุนและผลักดันกิจการให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี