นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศ (สทท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2/2561 อยู่ที่ระดับ 94 อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติเล็กน้อย โดยลดลงจากระดับ 101 ในช่วงไตรมาส 1/2561 โดยปัจจัยที่ส่งผลกระทบดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในไตรมาสนี้เนื่องจากการแข่งขันและต้นทุนที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ประกอบกับราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/2561 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.95 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.09% จากไตรมาส 2/2560 ส่วนช่วงไตรมาส 3/2561 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 9.64 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.79% จากไตรมาส 3/2560 แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวจากประเทศในกลุ่มอาเซียน 2.47% เพิ่มขึ้น 8.54%, นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก (รวมจีน) 4.35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.28%, นักท่องเที่ยวจากยุโรป 1.28 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.67% ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 2/2561 จะมีนักท่องเที่ยวไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 35% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วงไตรมาส 3/2561 จะมีนักท่องเที่ยวไทยวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 25% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในช่วงไตรมาส 3/2561 คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 100 โดยมีปัจจัยหนุนจากการคมนาคมที่สะดวกรวดเร็วขึ้น การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวร่วมกับการประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 39.47 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.53% จากปี 2560 และสร้างรายได้จำนวน 2.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.54% จากปี 2560
"เราคาดว่ารายได้จากการท่องเที่ยวที่มีการประเมินไว้ที่ 3 ล้านล้านบาทน่าจะทำได้เกินเป้า ในกรณีที่ครึ่งปีหลังจากนี้ไปไม่มีอะไรผิดปกติ โดยปัจจัยที่ยังเป็นห่วงคือการเมืองที่มีทิศทางร้อนแรงขึ้น อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะปลดล็อคให้กลุ่มการเมืองจัดการประชุมกันได้บ้างหรือไม่ หรือความเคลื่อนไหวทางการเมือง ถ้ามีความกดดันทางการเมืองมากๆ ก็อาจจะส่งผลให้ความกังวลของนักท่องเที่ยวต่างชาติมีเพิ่มขึ้น...แต่ขณะนี้การเมืองยังไม่เป็นตัวแปรมากนัก"นายอิทธิฤทธิ์ กล่าว
ส่วนปัญหาสงครามการค้าต้องมองกันยาวๆ ว่าจะส่งผลอะไรบ้างต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว เช่น การแซงชั่น การแข่งขันต่างๆ ภาวะเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากๆ ถ้าเศรษฐกิจประเทศเหล่านั้นดี การเดินทางก็มีมาก แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าเศรษฐกิจประเทศเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากโลกการค้าก็อาจจะมีส่งผลกระทบบ้าง แต่ก็คงจะกระทบทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทย
ประธาน สทท.กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจัยสำคัญ ได้แก่ การเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและง่ายขึ้น รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น พร้อมกับแผนประชาสัมพันธ์พื้นที่จากหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
โดย สทท.มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐให้เร่งพัฒนาการคมนาคมขนส่งให้มีมาตรฐานและเชื่อมต่อระบบการเดินทางต่างๆ เข้าด้วยกัน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสถานที่ท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยวให้เป็นไปตามมาตรฐานสองคล้องกับความสามารถในการรองรับของพื้นที่ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้นโยบายที่มีความสัมพันธ์กับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องและเข้าถึงทุกพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการควรพัฒนาคุณภาพสินค้า และการให้บริการให้อยู่ในมาตรฐานสากล สร้างเครือข่ายการทำงานในระดับพื้นที่ให้มีกลไกในการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อปรับตัวพร้อมต่อสถานการณ์การท่องเที่ยวและกระแสที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าและบริการได้อย่างมีคุณภาพ
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวถึงมาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศที่นำมาใช้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยังไม่ได้ส่งผลให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากหลายปัจจัย
"ส่วนตัวมองว่ามาตรการภาษีส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองยังไม่เวิร์คเท่าไหร่ เพราะ 1.คนอาจจะยังรับรู้น้อย 2.กลุ่มที่จะมาเป็นฐานในการเสียภาษียังไม่กว้างพอหรือคนไม่ได้สนใจมากนัก เพราะที่จะนำมาหักภาษีได้คือ ค่าโรงแรมและค่าเดินทาง ซึ่งค่าเดินทางเอาตั๋วเครื่องบินมาหักเลยไม่ได้ ต้องซื้อผ่านบริษัทนำเที่ยวถึงได้ เพราะฉะนั้นเป็นอุปสรรคที่ทำให้มาตรการนี้ยังไม่เกิดแรงจูงใจเท่าที่ควร นอกจากนี้ความพร้อมของผู้ประกอบการในบางพื้นที่เกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษียังทำได้ไม่ทั่วถึง ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอดูว่าในส่วนของผ่ายนโยบายคือคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป ส่วนจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นมากระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรองเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าอาจจะต้องการเสริมมาตรการอื่นเข้าไปด้วย ซึ่งหากปีหน้าจะนำมาตรการภาษีมาใช้อีกก็ต้องนำผลจากปีนี้มาประเมินและใช้เป็นบทเรียน"ประธาน สทท.กล่าว
ด้านนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า เรามั่นใจว่าปีนี้ยังเติบโตสูง ครึ่งปีแรกมีการเติบโตกว่า 10% โดยเฉพาะ 4 เดือนแรกเติบโตถึง 15% แต่ในเดือนพ.ค.-มิ.ย.ที่ผานมา ตัวเลขการเติบโตลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีเทศกาลฟุตบอลโลก ประกอบกับประเทศจีนในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.เป็นช่วงที่มีการสอบประจำภาคการศึกษาของของเด็กๆ ในประเทศจีนทำให้ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากและไม่มีการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว แต่ตอนนี้การสอบดังกล่าวเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลสอบ ถ้าผลสอบออกมาเด็กๆ สอบได้ตามที่คาดหวังผู้ปกครองก็จะพาบุตรหลานไปท่องเที่ยวเป็นรางวัล ทำให้คาดว่าเดือนก.ค.-ส.ค.นี้นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาท่องเที่ยวมากขึ้น
นายเศรษฐพันธ์ พุทธานี ผู้อำนวยการ สมาคมโรงแรมไทย กล่าวเสริมว่า หากเสถียรภาพของรัฐบาลยังดีก็ไม่น่ากังวล แต่ถ้าดูจากที่ผ่านมา ทุกๆ 2-3 ปีมักจะมีเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบการท่องเที่ยวไม่การเมืองก็โรคระบาด เช่น ซาร์ส อาหรับCrisis ไข้หวัดนก เสื้อสีต่างๆ
เรื่องการลงทุนของรัฐบาล คาดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเสร็จ จะทำให้ภาคส่วนของโรงแรมดีขึ้น แต่ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลคือปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ และ AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น