น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องถึงการออกมาตรการทางการค้าของสหรัฐ และมาตรการตอบโต้ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐว่า จากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่า การส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการของสหรัฐฯแล้ว โดยเฉพาะเครื่องซักผ้า และแผงโซลาเซลล์ ที่สหรัฐฯ กำหนดโควตาภาษีนำเข้าตั้งแต่ช่วงต้นปี 61 โดย ในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ มูลค่าการส่งออกแผงโซลาเซลล์ ลดลงถึง 50% และเครื่องซักผ้าลดลง 30%
"ผลกระทบที่เกิดขึ้นยังไม่มากนัก เพราะสินค้าทั้ง 2 รายการส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่าไม่มาก และเป็นสินค้าของผู้ส่งออกรายใหญ่ ส่วนสินค้าของผู้ประกอบการรายเล็ก (เอสเอ็มอี) ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก" รมช.พาณิชย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าการใช้มาตรการทางการค้าจะขยายวงกว้างมากขึ้น และอาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน ยังห่วงว่าอาจมีสินค้าจากทั้งสหรัฐฯ และจีน ที่ไม่สามารถส่งออกไปยังทั้ง 2 ประเทศได้ จะทะลักเข้าสู่ไทยมากขึ้น จึงสั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ จัดทำบัญชีรายการสินค้าจับตาอย่างใกล้ชิด (Watch List) เพื่อจับตาปริมาณการนำเข้ามาไทยว่าเพิ่มขึ้นอย่างไร เพื่อกำหนดมาตรการแก้ปัญหา
สำหรับสินค้าที่น่าเป็นห่วงว่าจะทะลักเข้าไทย เช่น สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ จากจีน รวมถึงสินค้าเกษตรบางรายการจากสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ผลิตไทยได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะเกษตรกร จึงสั่งการให้กรมการค้าภายใน ติดตามและเตรียมหามาตรการแก้ปัญหาในส่วนของสินค้าเกษตร
"อีกประเด็นที่น่าห่วงคือ อาจมีสินค้าส่งออกมาไทย แล้วสวมสิทธิ์ไทยส่งออกต่อไปตลาดสหรัฐฯ ซึ่งหากตัวเลขส่งออกสินค้าที่มีการสวมสิทธิ์ไทยส่งออกสูงขึ้นมาก อาจทำให้สหรัฐฯใช้มาตรการตอบโต้สินค้าไทยได้ ตรงนี้ได้ให้กรมการค้าต่างประเทศไปดูแล และหาทางรับมือเช่นกัน" รมช.พาณิชย์กล่าว
ด้านนายกรกฎ ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการไทยได้รับผลกระทบแล้วจากการขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐในอัตรา 25% และ 10% โดยคาดว่าปีนี้การส่งออกเหล็กของไทยไปสหรัฐฯ จะหายไปประมาณ 200,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 6,000 ล้านบาท จากปกติที่มีการส่งออก 300,000 ตัน มูลค่า 10,000 ล้านบาท
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า จากการศึกษาวิเคราะห์ของ สนค. โดยรวมแล้วไทยจะยังได้ประโยชน์จากส่งสินค้าไปขายทดแทนได้ เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ ไทยมีโอกาสส่งออกเพื่อทดแทนจีนในตลาดสหรัฐฯ รวมถึงส่งออกทดแทนสหรัฐฯ ในตลาดจีน สินค้าเกษตร เช่น มันสำปะหลัง มะพร้าว ชิ้นส่วนสัตว์ปีก ไทยมีโอกาสส่งออกสินค้าไปยัง 4 ประเทศที่ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ได้แก่ จีน แคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป ขณะที่ปลาปรุงแต่ง เนื้อสัตว์และส่วนประกอบ มีโอกาสทดแทนสินค้าจากสหรัฐฯ ในตลาดจีน และแคนาดา