กระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าไทยยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพียงพอความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยไม่จำเป็นต้องรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบกลาง พร้อมเตรียมเปิดโมเดลโครงการโซลาร์ภาคประชาชนเพื่อผลิตใช้เอง หากเหลือขายให้กลับมาจำหน่ายเข้าระบบ ซึ่งจะสรุปได้ภายในปีนี้ ขณะที่การตั้งหน่วยงาน RPS (Regional Power System :RPS) เพื่อบริหารจัดการไฟฟ้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ รองรับการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล 260-300 เมกะวัตต์นั้นหากประสบความสำเร็จ อาจไม่จำเป็นต้องสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเป็นคลังลอยน้ำ (FSRU) ในพื้นที่ภาคใต้เพื่อป้อน LNG ให้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "นโยบายการพัฒนาด้านพลังงานอย่างยั่งยืน ในบริบทของประเทศไทยสู่การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน" ที่จัดโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังเพียงพอต่อความต้องการใช้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นราว 1 หมื่นเมกะวัตต์ หรือประมาณ 20% ของกำลังการผลิตรวม ทำให้เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบกลางเพิ่มเติม
สำหรับการบริหารจัดการการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้นั้น ขณะนี้ได้มีแนวทางให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขยายสายส่งไฟฟ้าเพิ่มเติม และมีแผนจะดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 260-300 เมกะวัตต์ โดยจะจัดตั้งหน่วยงาน RPS ซึ่งจะเป็นการร่วมดำเนินการระหว่างกฟผ. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน เข้ามาบริหารจัดการไฟฟ้าในพื้นที่ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็อาจทำให้ไม่มีความจำเป็นที่ในพื้นที่ภาคใต้จะต้องสร้าง FSRU เพื่อนำเข้า LNG มาป้อนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่อีกต่อไป
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังอยู่ระหว่างการจัดทำโมเดลโครงการโซลาร์ภาคประชาชน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง หากเหลือก็ให้ขายเข้าระบบแตไม่ได้เป็นการขายเข้าระบบของการไฟฟ้าอย่างในปัจจุบัน แต่จะมีระบบสมาร์ทกริด และระบบกักเก็บพลังงานเข้ามารองรับ ซึ่งจะทำให้เกิดการจัดตั้งสตาร์ทอัพใหม่ ๆขึ้นมาเพื่อรองรับการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งคาดว่าโมเดลดังกล่าวจะสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกันนี้ก็จะต้องประชาสัมพันธ์ให้ภาคประชาชนร่วมมือกันในเรื่องของการอนุรักษ์พลังงานให้มากขึ้นด้วย