นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ 33.04 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดที่ระดับ 32.99 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อน ช่วงนี้มีแรงซื้อดอลลาร์เทียบกับสกุลหลักและสกุลอื่นๆในภูมิภาค แต่ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ขณะที่ ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน "นักบริหารเงิน กล่าว
วันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 32.95-33.10 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (27 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.20484% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.27326%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.0467 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 110.14 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 109.87 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1564 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ 1.1638 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0070 บาท/
ดอลลาร์
- พาณิชย์เตรียมหารือรับมือ เหล็กจีนสวมไทยส่งออกไปสหรัฐ 2 ก.ค.นี้ เอกชนห่วงไทยถูกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กมาก
ขึ้น แนะ กรมศุลกากรตรวจสอบบริษัทที่นำเข้าเหล็กจากจีน ด้าน สศอ.ชี้โอกาสเกิดยากมีเอกสารรับรองหลายชั้น ด้าน"ทรัมป์"กล่าว
หา"ฮาร์เลย์-เดวิดสัน"ใช้ภาษีเป็นข้ออ้าง
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่
ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากปรับตัวลง 1.0% ในเดือนเม.ย.
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 มิ.
ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงยอดขาดดุลการค้าที่ปรับตัวลดลงในเดือนพ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับ
ตาทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงิน
ดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,256.1 ดอลลาร์/ออนซ์
- นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ไตรมาส 1 ใน
วันนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP ไตรมาส 1 ขยายตัวที่ระดับ 2.2% ต่ำกว่าตัวเลข
ประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.3%
- นักลงทุนยังจับตานโยบายการค้าของสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะมอบ
หมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลในกรณีที่บริษัทต่างชาติซึ่งรวมถึงจีนนั้น ต้องการจะซื้อ
กิจการของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีความอ่อนไหว โดยตลาดมองว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือว่าไม่เข้มงวดเหมือนกับที่เคย
ประกาศก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐจะใช้มาตรการสกัดกั้นบริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นมากกว่า 25% เข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ
- ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,
ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน