นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 61 เพิ่มเป็น 4.3% จากเดิม 3.7% หลังจากไตรมาส 1/61 เติบโตสูงถึง 4.8% และคาดว่าไตรมาส 2/61 จะเติบโตได้ราว 4% จากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้สูง รวมถึงการท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชนดีต่อเนื่อง
ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่า GDP จะขยายตัว 4-4.2% โดยคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณการลงทุนของรัฐจะเข้ามาเป็นปัจจัยสนับสนุน ขณะที่ภาคการส่งออกไทยมองว่าจะได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ แต่จะต้องติดตามการจัดเก็บภาษีการค้ากับจีนในช่วงวันที่ 5 ก.ค.นี้อีกครั้ง
ด้านกำลังซื้อในประเทศคาดว่าจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกำลังซื้อของภาคเกษตรที่จะเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังราคาสินค้าเกษตรเริ่มดีขึ้น อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวยังเป็นแรงหนุนที่สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยได้ดี ทำให้เศรษฐกิจไทยยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 61
แนวโน้มค่าเงินบาทในปีนี้ได้ปรับประมาณการอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์ จากเดิมที่ 32 บาท/ดอลลาร์หลังจากที่ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 33 บาท/ดอลลาร์ไปแล้วจากปัจจัยความกังวลสงครามการค้าของสหรัฐฯ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเร็วกว่าคาด ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็น 2 ครั้ง จากเดิม 1 ครั้ง ส่งผลให้มีกระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ไปมากในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ รวมถึงไทยด้วย และทำให้ค่าเงินบาทในเดือนมิ.ย.61 อ่อนค่าไปถึง 30%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่ากระแสเงินทุนจะไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งในช่วงปลายเดือนก.ย.นี้ จากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่คาดว่ามาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯอาจจะคลี่คลายลงบ้าง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 62 เพราะธนาคารมองว่าหากเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ และทำให้ต้นทุนทางการเงินปรับเพิ่มขึ้น