นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2561 ครั้งที่ 2 โดยมีวงเงินที่ปรับลดลงสุทธิ 4,249 ล้านบาท จากเดิม 1,588,883 ล้านบาท เหลือ 1,584,634 ล้านบาท
พร้อมกับรับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องขออนุมัติจาก ครม. ภายใต้กรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ โดยมีวงเงินที่ปรับเพิ่มขึ้น 13,024 ล้านบาท จากเดิม 171,263 ล้านบาท เป็น 184,287 ล้านบาท
นายณัฐพร กล่าวว่า ที่ประชุมครม.ได้อนุมัติให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกัน และการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยให้ รมว.คลัง หรือผู้ที่รมว.คลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นอกจากนี้ ครม.ยังรับทราบแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ตั๋วเงินคลัง วงเงิน 80,000 ล้านบาท เป็นตราสารหนี้ระยะยาว, รับทราบประมาณการการคลังในระยะปานกลาง-ระยะยาว และพื้นที่ทางการคลัง (Fiscal Space) ในช่วงปีงบประมาณ 2561-2570
นายณัฐพร กล่าวว่า การปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะในครั้งนี้ จะส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ในปี 2561 อยู่ที่ 42.60% สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ 2561 อยู่ที่ 19.60% สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด อยู่ที่ 3.90% และสัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ อยู่ที่ 0.42% ซึ่งทั้งหมดนี้ยังอยู่ภายในกรอบวินัยการเงินการคลัง