นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้เดินทางไปประชุมเจรจากับนายสื่อ อี้เหว่ย รองอธิบดีกรมเยียวยาทางการค้าและการไต่สวนของประเทศจีน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและแก้ไขข้อพิพาททางการค้าระหว่างกรมเยียวยาทางการค้าและการไต่สวนของไทย-จีน ซึ่งผลเจรจาได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยฝ่ายไทยได้ยกประเด็นกรณีจีนไต่สวนมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping : AD) กับสินค้าไทยขึ้นหารือ และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของหลักการกระบวนการไต่สวนระหว่างกัน
โดยไทยได้หารือประเด็นการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งฝ่ายไทยเห็นว่าฝ่ายจีนไม่ได้นำข้อโต้แย้งและข้อคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนไทยเสียไปพิจารณาประกอบการไต่สวนอย่างเพียงพอ โดยฝ่ายจีนได้ชี้แจงว่า จีนไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแถลงการณ์ด้วยวาจาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียไว้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม โดยปกติในกระบวนการไต่สวนจีนจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 2 ครั้ง และมีการพิจารณาข้อมูลที่ได้รับซึ่งผู้มีส่วนได้เสียสามารถดูข้อมูลการเปิดรับฟังความคิดเห็นได้ และทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือในประเด็นสำคัญในการพิจารณาใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ได้แก่ การพิจารณาสินค้าชนิดเดียวกัน การพิจารณาความเสียหาย และการพิจารณาต้นทุนสินค้าในส่วนของการคำนวณส่วนเหลื่อมการทุ่มตลาด ซึ่งจีนจะพิจารณาความเสียหายครบทั้ง 15 ปัจจัย ตามที่กำหนดภายใต้ความตกลงขององค์การการค้าโลก และการพิจารณาสินค้าชนิดเดียวกันจะพิจารณาสินค้าที่สามารถใช้แทนกันได้เป็นสินค้าชนิดเดียวกันด้วย
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศของไทย และกรมเยียวยาทางการค้าและการไต่สวนของจีน ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2013 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านกฏระเบียบและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยการเดินทางไปหารือกับทางการจีนในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างมากซึ่งกรมการค้าต่างประเทศจะได้นำข้อมูลต่างๆ แจ้งแก่ผู้ส่งออกไทยต่อไป
ปัจจุบัน จีนมีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้าไทย 4 กรณี ได้แก่ Terephthalic Acid, Methyl Methacrylate Acid, POM Copolymer และ Bisphenol A และอยู่ระหว่างการไต่สวน 2 กรณี ได้แก่ Ethenolamines และ Phenol โดยมีการใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น 1 กรณี กับสินค้าน้ำตาล
ในขณะที่ไทยมีการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดกับสินค้าจีน 8 กรณี ได้แก่ เหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็นชนิดม้วนแผ่นและแผ่นแถบ กรดซิตริก, เหล็กแผ่นรีดเย็นชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน, เหล็กลวดคาร์บอนสูงฯ, เหล็กลวดคาร์บอนต่ำฯ, หลอดและท่อทำด้วยเหล็กกล้าไม่เป็นสนิม, เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน และหลอดและท่อทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า โดยมีการใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น 3 กรณี ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน เหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน และเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนเจืออัลลอย หน้าตัดรูปตัว H