นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหารได้รับงบประมาณสับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ให้จัดกิจกรรมนำผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปลงพื้นที่จริงเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการบริโภค การเลือกซื้อ และความต้องการ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนากลยุทธ์ สร้างคุณค่าใหม่ให้เกิดขึ้น และต่อยอดธุรกิจต่อไป โดย สสว.ได้นำคณะผู้ประกอบการจำนวน 18 ราย ไปร่วมจัดแสดงสินค้า ศึกษาดูงาน รับฟังการสัมมนา และเจรจาธุรกิจในงาน FOOD TAIPEI 2018 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เมื่อเร็วๆ นี้
โดยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยได้นำผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปที่ได้รับมาตรฐานการผลิตในระดับสากลไปจัดแสดงและเจรจาธุรกิจเพื่อเปิดตลาดในไต้หวัน อาทิ เนื้อจระเข้ทุบ หมู-เนื้อทุบ และอบแห้ง ชาสมุนไพรออแกนิค ผลไม้อบกรอบ พุดดิ้งมะพร้าวอ่อน มันหวานอบแห้ง ข้าวโพดกระป๋อง กระทิกระป๋อง น้ำอโลเวร่า แมงกะพรุนแปรรูป กุ้งต้มแช่แข็ง ซอสปรุงรสต่างๆ ผลไม้อบแห้งนานาชนิด ไอศกรีมมะม่วง มะม่วง/ทุเรียนอบกรอบดิปน้ำกะทิ หนังไก่ทอดกรอบ บัวลอยเผือก ทับทิมกรอบแช่แข็ง และหนังปลากะพงทอดกรอบ เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้ในผลิตภัณฑ์ และเกิดการเจรจาซื้อขายจำนวน 460 คู่เจรจาจากคู่ค้าหลายประเทศ
"ภายในระยะเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้คาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการค้ารวมกันได้ราว 205 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ที่มีคำสั่งซื้อสูงสุด ได้แก่ ไอศกรีมมะม่วง ของบริษัท พีพี เอส ฟู้ดส์ โปรดักส์ จำกัด มูลค่า 44 ล้านบาท รองลงมา คือ มะม่วง/ทุเรียนอบกรอบดิปน้ำกะทิ ของบริษัท ไอเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด มูลค่า 27 ล้านบาท แมงกะพรุนแปรรูป และกุ้งต้มแช่แข็ง ของบริษัท โชคดี ซี โปรดักส์ จำกัด มูลค่า 21.4 ล้านบาท ผลไม้อบกรอบ ของบริษัท ฉันทพัฒน์ โซลูชั่น พลัส จำกัด มูลค่า 20 ล้านบาท เป็นต้น" นายยงวุฒิ กล่าว
นายยงวุฒิ กล่าวว่า คณะผู้ประกอบการของไทยยังได้มีโอกาสศึกษาดูงานที่บริษัท Namchow Chemical Holdings Co., Ltd ของไต้หวัน ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 6 ชนิดหลัก ได้แก่ น้ำมัน ผลิตภัณฑ์นม แป้ง ข้าว ผงซักฟอกและเทคโนโลยีชีวภาพ พร้อมทั้งร่วมงานสัมมนาแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและไต้หวันในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ
สำหรับงาน FOOD TAIPEI 2018 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีผู้ประกอบการร่วมจัดแสดงสินค้าจำนวน 1,628 ราย จาก 40 ประเทศ และมีผู้เข้าชมงานกว่า 60,000 คน จากทุกทวีปทั่วโลก