นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยายนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมิ.ย.61 มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 95,284 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 2.36% คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 49,147 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.03%
ทั้งนี้ การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดออสเตรเลีย และตลาดยุโรป โดยการส่งออกไปตลาดตะวันออกกลางกลับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.61) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 561,960 คัน เพิ่มขึ้น 4.76% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 290,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ 87,854 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 25.9% และเพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนพ.ค.61 ทั้งนี้ยอดขายภายในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ แนวโน้มการลงทุนของภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ภาคการก่อสร้างเริ่มดีขึ้น ผลผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นและมีราคาดี ภาคการส่งออกนำเข้าเพิ่มขึ้น การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งนักท่องเที่ยวยังเดินทางมาประเทศไทยเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ใน 6 เดือนแรกของปีนี้ มียอดขายรถยนต์ในประเทศ 489,118 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.3%
สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในเดือนมิ.ย.61 อยู่ที่ 188,970 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 7.71% จากการผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 5.87% และผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศ เพิ่มขึ้น 18.48% และ 21.84% ตามลำดับ แต่ลดลง 2.15% จากเดือนพ.ค.61 ส่งผลให้ในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.61 มียอดผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 1,056,569 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.1%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการประชุมปลายเดือน ก.ค.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะมีการปรับเป้าหมายยอดการผลิต ยอดการส่งออก และยอดขายรถยนต์ในประเทศหรือไม่
"เห็นตัวเลข 6 เดือนแรกแล้วเชื่อว่ายอดผลิตรถยนต์ปีนี้น่าจะได้ตามเป้า 2 ล้านคันหลังจากที่รอมานานปีนี้อาจเกินเป้าสัก 1 แสนคัน รอปลายเดือนกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีการหารือว่าจะปรับเป้าหรือไม่" นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้น่าจะขยายตัว 5-6% จากปีก่อน ตามที่ได้แจ้งกระทรวงพาณิชย์ไว้ก่อนหน้านี้