นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น (HLJC) ระหว่างรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และนายโยชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า ไทยได้แจ้งญี่ปุ่นถึงความสนใจในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) และความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญภายในปีนี้ ซึ่งญี่ปุ่นยินดีสนับสนุนไทยทั้งสองเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม HLJC ตนได้นำคณะผู้แทนกระทรวงพาณิชย์พบหารือกับบริษัทญี่ปุ่น เช่น บริษัท Spice Road ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านอาหารไทยที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในญี่ปุ่นถึง 24 สาขา โดย 1 ใน 4 ได้รับตรา Thai Select ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพและมาตรฐานอาหารไทยจากกระทรวงพาณิชย์ และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขาไปยังเมืองอื่นๆ นอกจากโตเกียว แต่ปัจจุบันประสบปัญหา ญี่ปุ่นยังมีการกำหนดโควตาการนำเข้าข้าวหอมมะลิ และมีภาษีนำเข้าสูงในสินค้าเกษตรและวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร อีกทั้งมีข้อกำหนดเงื่อนไขสูงในการให้วีซ่าแก่พ่อครัวแม่ครัว ต้องมีประสบการณ์การทำงานและมาตรฐานสูง ซึ่งทำให้จำนวนพ่อครัวแม่ครัวไทยไม่เพียงพอ โดยได้แจ้งบริษัทฯ แล้วว่า ไทยให้ความสำคัญกับการเจรจาผลักดันให้ญี่ปุ่นเปิดตลาดสินค้าเกษตรและบริการที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารทั้งในกรอบการเจรจาเปิดเสรีเพิ่มเติมทวิภาคีกับญี่ปุ่น (JTEPA) และในกรอบ RCEP รวมทั้งจะส่งเสริมให้มีสถาบันผลิตพ่อครัวแม่ครัวอาหารไทยที่ได้มาตรฐานให้เพียงพอกับความต้องการของร้านอาหารไทยทั่วโลก และจะประชาสัมพันธ์ให้ตรา Thai Select เป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคต่างชาติ ซึ่งเชื่อมั่นว่า จะช่วยเพิ่มจำนวนธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้อีกเป็นเท่าตัว และช่วยขยายโอกาสการส่งออกของสินค้ากลุ่มวัตถุดิบอาหาร เช่น เครื่องแกง เครื่องปรุง และผักผลไม้ไทยในญี่ปุ่น และต่างประเทศตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังได้พบหารือกับบริษัท Jupiter Shop Channel ซึ่งเป็น TV Shopping ใหญ่สุดในญี่ปุ่น และที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำสินค้าไทย อาทิ หมอนผ้าไหม น้ำหอมอโรม่า เครื่องประดับ และผลไม้ไทย มาจำหน่ายในรายการ โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายมะม่วงน้ำดอกไม้ได้ 30 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ตนจึงเห็นว่า TV Shopping ในญี่ปุ่นเป็นอีกช่องทางที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เนื่องจากบริษัทฯ แจ้งว่า สินค้าเกษตรไทย เช่น มะม่วง มังคุด ทุเรียน สับปะรด ตลอดจนผลิตภัณฑ์ OTOP สินค้าไลฟ์สไตล์ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคญี่ปุ่น ขณะเดียวกัน บริษัท Jupiter ก็มีการร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการไทยเพื่อเปิดรายการ TV Shopping ในไทย หวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลด้วย พร้อมกันนี้ นายสนธิรัตน์ยังได้แนะนำบริษัทฯ ให้ใช้ประโยชน์จากความตกลง JTEPA ซึ่งญี่ปุ่นได้ลดภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้วกว่าร้อยละ 88 ของจำนวนสินค้ากว่า 9,000 รายการ