นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำอย่างเร่งด่วนถ้าต้องการส่งเสริมให้เกิด 5G ในประเทศไทย คือ การสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ชุดใหม่อย่างเร่งด่วน เพราะ กสทช.ปัจจุบันเป็นชุดรักษาการ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดอำนาจการบริหารและการตัดสินใจในเรื่องสำคัญได้อย่างแท้จริง
"5G ควรให้ กสทช.ชุดจริง ทำงานจริงเข้ามาบริหาร เพราะถ้าทำงานด้วยชุดรักษาการ จะถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการบริหาร และตัดสินใจเรื่องสำคัญ บอร์ด กสทช.ใหม่ มีภารกิจในการกำหนดแผนการใช้คลื่นความถี่ และกลับมาทบทวนแนวทางการจัดสรรคลื่นที่เหมาะสม" ประธานทีดีอาร์ไอกล่าว
พร้อมมองว่าภาพการแข่งขันในตลาดไทยยังเป็น 2.5G เพราะระบบยังไม่เกิดการแข่งขันแท้จริง กสทช.ยังทำงานแบบเกรงใจกลุ่มคนบางกลุ่ม ดังนั้นถ้าต้องการให้เกิด 5G รัฐบาลต้องให้ประชาชนเป็นตัวตั้ง ต้องปรับกระบวนการใหม่ ต้องอนุญาตให้ผู้ลงทุนถือหุ้นเกิน 50% ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลพยายามหางานให้รัฐวิสาหกิจ เพื่อประคองกิจการไปให้ได้ ทั้งที่การทำงานอาจมีศักยภาพไม่สูง นอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
สำหรับทิศทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G นั้น นายสมเกียรติ กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมจะเป็นกลุ่มที่ใช้ 5G มากที่สุด รองลงมา คือ ประชาชนทั่วไป เนื่องจากอุตสาหกรรมต้องการเทคโนโลยีเพื่อการแข่งขัน สำหรับประเทศไทยเชื่อว่า 5G จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพในการให้บริการด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพภายใต้ต้นทุนที่ไม่สูงเกินไป
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทยมี 3 ราย รัฐวิสาหกิจ 2 ราย แต่ไม่ยอมเข้าร่วมแข่งขัน จึงอาจเรียกว่าโดยรวมแล้วมีแค่ 3.2 ราย ดังนั้นนโยบายรองรับ 5G ที่ดีนั้น รัฐบาลควรเปิดเสรีผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ ถ้าเกิดการแข่งขันเป็นธรรม ราคาสมเหตุสมผล จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย เพราะหากดำเนินการไม่ดีจะส่งผลเสีย ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้อาจลดลงจาก 3.2 ราย เหลือ 2.3 ราย และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การบริการที่คุณภาพไม่ดีแต่ราคาสูง