ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการส่งออกสินค้าของไทยตลอดทั้งปี 2561 จะขยายตัวที่ 8.8% (กรอบประมาณการ 6.5-11.5%) หลังภาพรวมมูลค่าการส่งออกสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 ขยายตัวที่ร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักๆ มาจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องและวัฎจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนเส้นทางการส่งออกสินค้าไทยในช่วงครึ่งปีหลังให้ขยายตัวในแดนบวก แต่อาจจะชะลอลงจากช่วงครึ่งปีแรกมาอยู่ที่ร้อยละ 6.8 หรือมูลค่าส่งออกต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 21,939 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนหนึ่งจากปัจจัยเรื่องฐานที่สูงในปีก่อน ประกอบกับในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในส่วนของประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ต่างฝ่ายต่างเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ฯ นั้น คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยในปี 2561 อย่างจำกัด โดยไทยอาจจะได้ผลบวกในบางสินค้าส่งออก เช่น Hard Disk Drive (HDD), แผงวงจรไฟฟ้า, พลาสติกบางประเภท เป็นต้น และอาจจะได้รับผลลบในบางสินค้าส่งออก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การส่งออกสินค้าไทยในปี 2561 จะได้รับความเสียหายประมาณ 280-420 ล้านดอลลาร์ฯ (รวมผลกระทบทางตรง และผลกระทบทางอ้อมผ่านห่วงโซ่การผลิตแล้ว) หรือคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 0.1-0.2 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามแผนการของสหรัฐฯ ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ (ได้มีการประกาศรายการสินค้าแล้ว) และการตอบโต้ของจีนต่อมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ครั้งใหม่นี้ ถ้าหากมีการบังคับใช้จริง ก็อาจจะส่งผลต่อการส่งออกสินค้าไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561