นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.30/33 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ปิดตลาดที่ระดับ 33.42 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นได้จากผลของดอลลาร์สหรัฐที่ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปว่ากำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
"บาทมีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้น เพราะคอมเม้นท์ของประธานาธิบดีสหรัฐที่ออกมาในช่วงนี้ ค่อนข้างกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่า ลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.35 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (20 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.48202% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.49218%
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.94/96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ 112.43 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1631/1632 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1656 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.4610 บาท/
ดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20
ก.ค.) หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 7.1 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิด
ที่ 1231.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของ
ดอลลาร์ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ซาอุดิอา
ระเบียเตรียมลดการส่งออกน้ำมันราว 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป โดย
ล่าสุดสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 70.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ
เบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 73.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ออกแถลงการณ์เตือนว่า สงครามการค้าและความตึง
เครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาดัง
กล่าวผ่านการเจรจาและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
- สำนักงานสถิติแห่งชาติแคนาดาเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาพุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นับตั้งแต่เดือนก.พ.2555 และสูงกว่าระดับ 2.0% ซึ่งเป็นเป้าหมายของธนาคารกลางแคนาดา เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยราคา
พลังงานดีดตัวขึ้นเกือบ 25% นับตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 12.4% นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซิน
ทะยานขึ้น 24.6%