นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศ ได้ประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เรื่อง แนวทางการควบคุมเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่นำไปใช้ได้สองทาง (DUI) ภายใต้ระบบงานการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction: WMD) ตามมาตรา 3 ของพ.ร.บ.การควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ... (ร่าง พ.ร.บ. TCWMD) เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาองค์ความรู้และงานวิจัยของประเทศ โดยมี ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติเป็นประธานการประชุม
ทั้งนี้ วช. มีมุมมองว่า ร่าง พ.ร.บ. TCWMD มีการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาฯ กับการกำหนดมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงได้อย่างเหมาะสม ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า วช.มีภารกิจในการส่งเสริมการวิจัย พัฒนานวัตกรรมของประเทศ และผลักดันงานวิจัยของภาครัฐไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตลอดจนมุ่งเน้นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยหันมาผลิตผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูงกว่าผลิตภัณฑ์และบริการดั้งเดิม และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ดี วช. ได้เล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นในการออกกฎหมายดังกล่าว และยินดีให้ความร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ วช. โดยในเบื้องต้นหากร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้มีผลใช้บังคับ วช. อาจพิจารณากำหนดเงื่อนไขให้นักวิจัยหรือผู้ใช้งานวิจัยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยจัดทำเป็นหลักเกณฑ์หนึ่งที่สำคัญของการจัดสรรทุนวิจัย
นายอดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบงานการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ WMD ภายในองค์กร (Internal Compliance Program : ICP) ที่กรมฯ พัฒนาขึ้น นอกจากจะสามารถช่วยผู้ประกอบการในการตรวจสอบความเสี่ยงของกิจกรรมการส่ง DUI ออกนอกราชอาณาจักรในการป้องกันไม่ให้เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นต้นแบบให้นักวิจัย สถาบันการศึกษา และหน่วยงานต่างๆ สามารถคัดกรองความปลอดภัยของผู้ใช้งานวิจัยก่อนการดำเนินการถ่ายโอนเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ. TCWMD