นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม 2561 นี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดตัวโครงการมอบนโยบาย และปาฐกถาพิเศษเรื่อง "โครงการประชารัฐสวัสดิการกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก" เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับโครงการนี้ เนื่องจากมีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ทั้งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการลดค่าครองชีพ ช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตมากขึ้นด้วย โดยภายในงานจะมีการจัดเสวนาเรื่องการใช้โปรแกรมประยุกต์ Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ กับร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย
สำหรับความคืบหน้าการรับสมัครร้านค้าเข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีร้านค้ารายย่อย ร้านโชวห่วย ร้านหนูณิชย์ ร้านอาหารปรุงสำเร็จ ร้านค้าในตลาดสด ตลาดต้องชม ตลาดกลางสินค้าเกษตร ร้านขายผลิตภัณฑ์ชุมชน รถยนต์เร่ขายสินค้า ได้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเกือบ 20,000 ราย โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ตรวจสอบรายละเอียดด้านเอกสาร คุณสมบัติของผู้สมัคร และได้จัดส่งรายชื่อให้กับกรมบัญชีกลางแล้วประมาณ 16,500 ราย เพื่ออนุมัติการเข้าร่วมโครงการ ส่วนที่เหลือกำลังตรวจสอบความครบถ้วนและหากตรวจสอบเสร็จก็จะจัดส่งให้กรมบัญชีกลางอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งรัดให้พาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศเร่งประชาสัมพันธ์ และอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้าในการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยให้ได้รับการดูแลจากรัฐบาล และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านค้า เพราะในแต่ละเดือนจะมีวงเงินที่รัฐบาลใส่เข้าไปในบัตรกว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อผู้ถือบัตรนำไปใช้จ่ายจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากได้ โดยได้ตั้งเป้าหมายร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการไม่ต่ำกว่า 100,000 ราย
"ตอนนี้มีร้านค้าสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เดิมตั้งเป้าไว้ที่ 100,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งผมคิดว่า 100,000 รายทำได้แน่นอน เพราะเฉลี่ยต่อจังหวัดก็แค่ 1,000 กว่าร้าน จริงๆ มีร้านในแต่ละจังหวัดเยอะมาก น่าจะทำได้ถึง 2,000-3,000 ร้านต่อจังหวัด ซึ่งน่าจะทำให้ถึง 200,000 รายทั่วประเทศ ขณะนี้ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์ เพื่อรับสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างเต็มที่แล้ว" นายสนธิรัตน์กล่าว
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์การกำหนดรหัส 6 หลักเพื่อใช้คู่กับบัตรในการชำระเงินค่าสินค้า เพราะผู้ถือบัตรจะสามารถใช้บัตรในการซื้อสินค้าได้หลากหลายขึ้น จากเดิมที่ต้องนำไปใช้รูดผ่านเครื่อง EDC ในร้านค้าธงฟ้าประชาชน แต่ต่อไปจะสามารถจ่ายค่าสินค้าให้กับร้านค้าที่สมัครใช้มือถือรับชำระเงินได้ด้วย โดยผู้ถือบัตรสามารถขอรหัส 6 หลักได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยใกล้บ้าน หรือไปที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเมื่อเสียบบัตรแล้ว ระบบจะบังคับให้ใส่เลขบัตรประชาชน 6 หลักสุดท้าย และจากนั้นให้ผู้ถือบัตรกำหนดเลขรหัส 6 หลักใหม่ เพื่อใช้คู่กับบัตรในการชำระค่าสินค้า