นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้รวบรวมสุดยอดผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ ทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ ผู้ประกอบการรายใหญ่ กลุ่มผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน (OTOP) ทั่วประเทศกว่า 1,500 ราย ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรม สินค้าและบริการที่ทันสมัย รวมทั้งเปิดเวทีเพื่อแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทยที่หลากหลาย ครบวงจร นำเสนอแนวคิดหลากหลายในงาน Thailand Industry Expo 2018 ภายใต้แนวคิด "Thailand Industry 4.0: Change to Shift เปลี่ยนเพื่อปรับ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย" สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และนโยบายของกระทรวงฯ ในด้านการขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ก็คือ การเพิ่มศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยที่ได้กำหนดแผนพัฒนาและขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) โดยครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (5 First S-Curve) ได้แก่ ยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง/เชิงสุขภาพ เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และการแปรรูปอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมอนาคต (5 New S-Curve) หรือกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเข้มข้น ได้แก่ หุ่นยนต์ การบินและโลจิสติกส์ เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัลและการแพทย์ครบวงจร
โดยกำหนดจัดงานวันที่ 2-5 สิงหาคม 2561 ทั้งนี้ คาดว่าตลอดทั้ง 4 วันของการจัดงานจะมีผู้เข้าร่วมชมงานทั้งสิ้นกว่า 200,000 คน และคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายจากการซื้อขายผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการรวมกว่า 500 ล้านบาท
"ผมเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4.5% ต่อปี มีการลงทุนเติบโตไม่ร้อยกว่า 10% และมีมูลค่าการส่งออกเติบโตไม่น้อยกว่า 8% ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวที่จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ภายใน 20 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" นายอุตตม กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีสถาบันการเงินมานำเสนอแพ็กเกจส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ลดข้อจำกัด หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขบางประการ เพื่อให้สะดวกต่อการพัฒนาธุรกิจ รวมทั้งการจัดกิจกรรมสัมมนา ในหัวข้อที่น่าสนใจจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งจากองค์กรภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หัวข้อ รวมทั้งการแสดงความก้าวหน้าของนวัตกรรมและเทคโนโลยีของภาคอุตสาหกรรม 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มเกษตร กลุ่มการผลิต และการบริการ จากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ และกิจกรรมพิเศษเพื่อเชื่อมโยงและยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศ