รมว.พาณิชย์ เปิดตัว Big Data เชื่อมข้อมูลภายในและภายนอก ยกระดับการทำงานผลักดันการค้าของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 26, 2018 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดวิสัยทัศน์แสดงศักยภาพการใช้ Big Data ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในทุกระดับอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การสร้างกำลังซื้อให้กับประชาชนในระดับฐานราก การสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพรายพื้นที่ให้กับประชาชนการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการฝึกอบรมที่เหมาะสม สอดคล้องกับระดับความสามารถของผู้ประกอบการแต่ละรายอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจ รองรับเศรษฐกิจ 4.0 ตลอดจนการยกระดับธุรกิจสู่การค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ยังนำ Big Data มาใช้เพื่อยกระดับการทำงานของกระทรวง ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเพื่อผลักดันการค้าของไทย สร้างรายได้จากการส่งออกให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลจากการพัฒนา Big Data ของกระทรวงพาณิชย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

โดยกระทรวงพาณิชย์ในฐานะเป็นผู้ดูแลด้านเศรษฐกิจมุ่งหวังให้เกิดผลการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมและให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในยุคดิจิทัลให้เข้มแข็งในระยะยาว โดยใช้ประโยชน์จากการใช้ Big Data ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยนำข้อมูลBig Data มาประมวล เพื่อสร้างอาชีพที่เหมาะสมให้กับประชาชนเป็นรายพื้นที่ อีกทั้งกระทรวงยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนองค์ความรู้ให้กับภาคประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs ผ่านการฝึกอบรมอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจไปจนถึงการค้าระหว่างประเทศตามศักยภาพรายบุคคล โดยกระทรวงได้บูรณาการข้อมูลและหลักสูตรการฝึกอบรมของทุกหน่วยงานในกระทรวงเพื่อลดความซ้ำซ้อนของหลักสูตรก่อให้เกิดการพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแท้จริงและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กระทรวงยังมีการใช้ประโยชน์จาก Big Data มาใช้ในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานด้านต่างประเทศของกระทรวง มาประมวลและแสดงผลแบบ Real-time เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารในการกำหนดนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนใช้ในการติดตาม ผลักดัน และขยายโอกาสการค้าระหว่างประเทศให้บรรลุเป้าหมาย

"การดำเนินงานข้างต้นถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการนำ Big Data มายกระดับการทำงานของกระทรวงพาณิชย์(Empowering MOC with Big Data)ใน 3 ด้าน คือ 1) การอำนวยความสะดวกการให้บริการประชาชน 2) การลดขั้นตอนกระบวนการทำงานภายในกระทรวง และ 3) การตัดสินใจในการวางนโยบายและกลยุทธ์ในการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจของประเทศ ดังจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Big Data เป็นตัวแปรสำคัญที่จะเปลี่ยนข้อมูลที่กระจัดกระจาย ไม่มีมูลค่า ให้เกิดเป็นข้อมูลที่มีมูลค่า เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายและแนวทางในการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ให้มีความถูกต้อง ชัดเจน เกิดผลสูงสุดต่อภาคส่วนประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับพื้นที่ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ" นายสนธิรัตน์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ