นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยถึงกรณีเขื่อนย่อยดิน ส่วน D ในโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ในลาวพังนั้น ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ซึ่งในช่วง 2-3 วันมีฝนตกหนัก ประกอบกับเขื่อนยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างแล้วเสร็จ 80-90% ซึ่งบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ซึ่งเป็นผู้ร่วมลงทุนในโครงการ ก็ได้มีมาตรการฉุกเฉิน อพยพประชากร รวมทั้งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขณะนี้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานในสังกัด ทั้ง บมจ.ปตท. (PTT) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัทในเครือ รวมทั้ง RATCH เร่งระดมความช่วยเหลือในรูปเงินกว่า 10 ล้านบาท พร้อมถุงยังชีพ และพร้อมส่งช่างไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามที่รัฐบาล สปป.ลาวร้องขอ
โดยเท่าที่รับรายงาน ทางโครงการเซเปียน-เซน้ำน้อย ยังยืนว่าโครงการยังเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จะสร้างเสร็จในเดือน พ.ย.61 และส่งขายตามสัญญาเข้าระบบได้ใน ก.พ.62 อย่างไรก็ตาม หากล่าช้ากระทรวงพลังงานก็ขอยืนยันว่าไม่มีปัญหาต่อความมั่นคงของไทยเพราะสำรองไฟฟ้ายังมีสูงมาก
"เราไม่อยากให้พุ่งเป้าที่ไฟฟ้าจะเพียงพอหรือไม่ ตามกรอบข้อตกลง MOU รับซื้อไฟฟ้าไทย- สปป.ลาว ไทยจะซื้อไฟฟ้าจาก ลาว 9,000 เมกะวัตต์ ในปี 2579 โดยขณะนี้ รัฐบาล สปป.ลาวได้เสนอให้ไทยเร่งพิจารณารับซื้อตามข้อตกลง โดยขณะนี้มีสัญญารับซื้อแล้ว ประมาณ 6,000เมกะวัตต์" รมว.พลังงาน กล่าว
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ เซเปียน-เซน้ำน้อย ขนาด 410 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างมีความก้าวหน้าประมาณ 90% ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีสัญญาขายไฟฟ้า 354 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟผ. ระยะเวลา 27 ปี (ปี 62-89) และอีก 40 เมกะวัตต์ จะผลิตและจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าลาว
รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดโครงการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่า ขณะนี้ กกพ. เสนอรายชื่อกรรมการ 2 ราย ที่สมัครใจลาออกมายังกระทรวงพลังงานแล้ว และเมื่อรวมกับนายไกรสีห์ กรรณสูตร ที่เกษียณอายุงานไปแล้วเมื่อปี 2560 ก็จะครบ 3 คน ที่จะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่เมื่อดำรงตำแหน่งครบ 3 ปีแล้ว จะต้องมีการปรับเปลี่ยนกรรมการออกกึ่งหนึ่งทุก ๆ 3 ปี ส่วนการสรรหากรรมการเข้ามาทดแทนนั้นจะเป็นไปตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะใช้วิธีการสรรหาด้วยวิธีการใดนั้นยังไม่สามารถตอบได้
ด้านบริษัท ไฟฟ้า เซเปียน-เซน้ำน้อย จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย ระบุว่าทีมวิศวกรโครงการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณเขื่อนดินย่อยส่วน D รวมทั้งเขื่อนดินย่อยอื่นทั้งหมดแล้ว ส่วนสถานการณ์น้ำที่ไหลผ่านเขื่อนดินย่อยส่วน D มีปริมาณลดน้อยลง หากไม่มีฝนตกเพิ่ม คาดว่าปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนดังกล่าวจะหยุดได้ในเร็ววันนี้