นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน (ม.ค.- มิ.ย.61) ว่า บสย. ได้อนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อทะลุเป้าหมาย 56,150 ล้านบาท เติบโต 90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปิดยอดค้ำประกันสินเชื่อที่ 29,591 ล้านบาท และอนุมัติหนังสือค้ำประกัน 58,296 ฉบับ เติบโต 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 47,204 ฉบับ สามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ 57,177 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 83,779 ล้านบาท โดยโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 6 (ปรับปรุงใหม่) สามารถปิดโครงการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด (30 มิ.ย.61) และสามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อได้เต็มวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายการดำเนินงาน บสย.ในครึ่งปีหลัง โดยเร่งจัดทำแผนงานและเปิดรับคำขอค้ำประกัน ภายใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ 2 โครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ค.61 วงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวม 165,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7) วงเงิน 150,000 ล้านบาท 2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneur) ระยะที่ 3 วงเงิน 15,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง
ประธานกรรมการ บสย. กล่าวว่า โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS 7) วงเงิน 150,000 ล้านบาท จะแตกต่างจากโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่ผ่านมา จุดเด่นของโครงการนี้คือ มีความหลากหลายและรองรับผู้ประกอบการ SMEs ครอบคลุม 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ SMEs ประชารัฐและนโยบายรัฐ, SMEs นิติบุคคล บัญชีเล่มเดียว, SMEs รายเล็ก, SMEs ที่ได้รับสินเชื่อจาก SFIs, SMEs ทั่วไป และการจัดสรรตามรายสถาบัน ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีแรกคาดว่าจะช่วยให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 43,000 ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ 240,000 ล้านบาท ค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 40 ล้านบาท ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี และ คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 1.75% สิ้นสุดโครงการ 23 กรกฏาคม 2563
ส่วนโครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneur) ระยะที่ 3 วงเงิน 15,000 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก กำหนดวงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อไม่เกิน 10 ปี คาดว่าจะช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ 150,000 ราย และเกิดสินเชื่อในระบบ 15,000 ล้านบาท สิ้นสุดโครงการวันที่ 23 กรกฏาคม 2563
นายสุรชัย กล่าวว่า 2 โครงการนี้ จะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และผู้ประกอบการ SMEs โดยเน้นย้ำให้ บสย.เร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถเปิดรับคำขอการค้ำประกันสินเชื่อได้ทันภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัว ลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ ลดต้นทุนธุรกิจ อันเป็นนโยบายต่อเนื่องของรัฐบาล โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.
"มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานสิ้นปี บสย.จะสามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ และมียอดการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 110,000 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายและแผนงานปี 2561" นายสุรชัยกล่าว