พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ ในการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าบ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา ขึ้นเป็นจุดผ่านแดนถาวร โดยให้กระทรวงมหาดไทยออกประกาศที่เกี่ยวข้องต่อไป
"หน่วยงานด้านความมั่นคง ได้รับรองและยืนยันว่าในพื้นที่ไม่มีปัญหาเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน, อาวุธสงคราม กับระเบิด, การค้ามนุษย์, ชนกลุ่มน้อย, บุคคลสองสัญชาติ, การลักลอบเข้าเมือง อีกทั้ง จ.พะเยา ได้กำหนดแผนการจัดระบบการป้องกันพื้นที่ชายแดน โดยกำหนดเป็นแผนการป้องกันชายแดนไทย-ลาว ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ.พะเยา" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
พร้อมระบุว่า ในการบริหารจัดการด้านคมนาคมนั้น ได้เริ่มมีการพัฒนาทางหลวงหมายเลข 1093 ไว้ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน รวม 12 โครงการ และการพัฒนาถนนสายบ้านฮวก - กิ่วหก ซึ่งขณะนี้โครงการดังกล่าวบรรจุอยู่ในแผนงานประจำปีงบประมาณ 2562 ของกรมทางหลวงแล้ว
สำหรับการบริหารจัดการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นั้น ในส่วนของด่านศุลกากรเชียงของ ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.พะเยา ได้แจ้งความพร้อมในการจัดอัตรากำลังบุคคลเพื่อเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ และกำหนดแผนการดำเนินงาน โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลการสัญจรข้ามแดน แผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากร ทั้งนี้เพื่อให้สามารถป้องกันการลักลอบเข้าเมือง และปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ
ทั้งนี้ สำหรับสถิติการค้าชายแดนที่จุดผ่อนปรนการค้าบ้านฮวก ตั้งแต่ปี 2556-2560 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,386 ล้านล้านบาท คิดเป็น 85.46% ของมูลค่าการค้าทั้งหมด และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนปริมาณการเดินทางเข้า-ออก นับตั้งแต่ปี 2556-2560 มีประชาชนไทยและลาว เดินทางเข้า-ออก บริเวณจุดผ่อนปรนบ้านฮวก รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.15 แสนคน และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
"ในการยกระดับจุดผ่านแดนชั่วคราวบ้านฮวกให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรของไทย และยกระดับด่านท้องถิ่นบ้านปางมอนเป็นด่านสากลของลาวนั้น จะมีการทำพิธีเปิดด่านของทั้ง 2 ประเทศพร้อมกันในวันที่ 8 ส.ค.นี้" พล.ท.สรรเสริญระบุ