ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.) โดยดอลลาร์อ่อนตัวลงจากระดับที่แข็งค่าขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐไตรมาส 3 ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่กระแสเงินทุนไหลเข้าดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค.
จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากทอมสัน ไอเอฟอาร์กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในเดือนธ.ค.ที่ออกมาน่าผิดหวังหลายรายการและความคิดเห็นของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ที่ว่า สหรัฐมีโอกาสที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้นนั้น ต่างเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ซบเซา และข้อคิดเห็นในเชิงลบจากเฟดสาขาซานฟรานซิสโกอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในช่วงปลายปีนี้
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 06.25 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 112.85 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112.98 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่ค่าเงินยูโรซื้อขายกันที่ 1.4408 ดอลลาร์ต่อยูโรเมื่อเทียบกับระดับ 1.4391 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านเงินปอนด์สเตอริงอยู่ที่ 2.0213 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับ 2.0204 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายกันที่ 85.73 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับระดับ 85.67 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อคืนนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการเสี่ยงที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--