ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์แข็งเทียบยูโร หลังดัชนี CPI สหรัฐพุ่งเกินคาด

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ธ.ค.) ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าดัชนี CPI ที่สูงขึ้นเช่นนี้อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.4425 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4624 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0154 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 2.0387 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          นอกจากนี้ ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 113.42 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112.20 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.1533 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.1413 ฟรังซ์ต่อดอลลาร์
          กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7% และเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
          ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ติดต่อกันเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว
          นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่า ดัชนี CPI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดอาจทำให้เฟดไม่คิดที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งหากสถานการณ์เป็นไปตามที่คาดการณ์ ก็จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นอีก
          นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีที่ระบุว่า ดัชนี CPI ของเยอรมนีในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางยุโรปยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าเช่นกัน