นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิด"โครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันบางจากดีเซลเกรดพิเศษ B20" เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐ ช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์มในภาวะน้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด ราคาตกต่ำ และลดต้นทุนค่าขนส่ง ค่าโดยสารในยามน้ำมันแพง ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้ประกอบการกลุ่มขนส่งสินค้า รถและเรือโดยสาร เข้าร่วมโครงการจำนวนมาก รวมถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ยอดใช้ระยะแรก 2.5 ล้านลิตรต่อเดือน ช่วยเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไบโอดีเซล 3,500 ตันต่อปี
พร้อมทั้งวางแผนระยะต่อไปจะขยายจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ไปใช้กับเครื่องมือเครื่องจักรกลทางการเกษตร บรรเทาปัญหาราคาน้ำมันแพง ช่วยลดต้นทุนภาคการเกษตร โดยอยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในเดือน ก.ค.ที่เริ่มจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 บางจากทำยอดขายแล้ว 7 แสนลิตร จากลูกค้า 7 ราย ซึ่งราว 5 แสนลิตร เป็นยอดขายให้กับ TPIPL ขณะที่ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 20 ราย ซึ่งน่าจะผลักดันให้ยอดขาย B20 ของบริษัทในช่วงปลายปีนี้ทำได้ถึง 2.5 ล้านลิตร/เดือนตามเป้าหมาย
ส่วนความคืบหน้าการขายแหล่งน้ำมันดิบ Galoc ในฟิลิปปินส์ที่ถืออยู่ 55.8% มูลค่าประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 660 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะดำเนินการเสร็จในสิ้นเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะบันทึกกำไรหรือขาดทุนจากการขายหุ้นดังกล่าว แต่เห็นว่าเป็นโอกาสที่เหมาะสมเพราะเป็นช่วงปลายของการผลิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนแหล่งปิโตรเลียมอื่นที่อยู่ภายใต้ Nido Production (Galoc) Pty. Ltd. (NPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยนั้น ปัจจุบันอยู่ในช่วงการสำรวจและพัฒนา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเริ่มผลิตเมื่อใด
ขณะที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวในฐานะประธานในพิธีว่า จากสถานการณ์น้ำมันปาล์มดิบล้นตลาดและราคาตกต่ำ กระทรวงพลังงานมีแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ด้วยการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่มีส่วนผสมของน้ำมันไบโอดีเซลร้อยละ 20 มีเป้าหมายการจำหน่ายที่ 15 ล้านลิตรต่อวัน
นับตั้งแต่เปิดขายน้ำมันไบโอดีเซล B20 ในเดือนก.ค. มียอดขายแล้วราว 1 ล้านลิตร/เดือน โดยในส่วนนี้ประมาณ 5 แสนลิตร เป็นการใช้ของ TPIPL ซึ่งมีความมั่นใจต่อการใช้ B20
เบื้องต้นคาดว่าจะเพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มดิบได้มากขึ้นจากเดิม 1.3 ล้านตันต่อปี เป็น 2 ล้านตันต่อปี โดยกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ต่ำกว่าน้ำมันดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตร เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะส่งผลต่อการลดค่าครองชีพของประชาชน
ทั้งนี้ จากการศึกษาทดลองใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่บางยี่ห้อบางรุ่น พบว่าใช้ได้ไม่มีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ อีกทั้งยังทำให้ระบบการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เร็วๆ นี้ กระทรวงพลังงานจะเจรจากับกระทรวงคมนาคม เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ในรถ ขสมก. บขส. และรถไฟ ด้วย