ดอลล์แข็งเทียบยูโรที่ตลาดออสเตรเลียเช้านี้ จากกระแสคาดเฟดยังไม่ลดดบ.

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้(17 ธ.ค.) หลังจากที่ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้
          ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐ (CPI) ในเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวที่เร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี และเหนือกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.6% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น 
          ตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นข้อมูลที่ทำให้เฟดยังไม่ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งภาวะดังกล่าวจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 06.35 น. ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ 1.4413 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.4430 ดอลลาร์ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินปอนด์สเตอริงซื้อขายกันที่ระดับ 2.0145 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเทียบกับ 2.0177 ดอลลาร์ต่อปอนด์ 
          ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ 113.275 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 113.28 เยนต่อดอลลาร์
          สำหรับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ 86.21 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 86.07 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
          จอห์น คิเรียคูปูลอส หัวหน้านักค้าเงินจากเอ็นเอบี แคปิตอล กล่าวว่า วิกฤตสินเชื่อที่ยังคงมีอยู่ยังคงส่งผลในเชิงลบที่ร้ายแรงต่อค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยนักลงทุนเริ่มหันมาจับตาดูปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจอีกครั้ง