อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แนะนำรัฐบาลสหรัฐว่า นโยบายลดหย่อนภาษี หรือนโยบายด้านการเงินอื่นๆที่มีจุดมุ่งหมายจะช่วยเหลือเจ้าของบ้านที่ประสบปัญหาการชำระคืนหนี้สิน จะเป็นนโยบายที่ดีที่สุดที่สามารถแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจของสหรัฐได้ พร้อมกับเตือนว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยไม่ได้ช่วยให้ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์หมดไปได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กรีนสแปนไม่ได้เจาะจงว่าควรปรับลดภาษีในสัดส่วนเท่าใด แต่เขาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกอบกู้วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้สามารถทำได้โดยผ่านการใช้นโยบายลดหย่อนภาษี หรือ จัดตั้งโครงการใช้จ่ายเงินก้อนใหม่ของรัฐบาล
"เงินในคลังของสหรัฐยังมีอยู่ และเราควรจะนำออกมาใช้ให้มากขึ้น เพราะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในขณะนี้" กรีนสแปนกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC
"นอกจากนี้ ผมยังเป็นห่วงเกี่ยวกับสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าตัวเลขเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานที่พุ่งขึ้นรุนแรงที่สุด" เขากล่าว
ทั้งนี้ กรีนสแปนกล่าวว่า "เฟดควรทำในสิ่งที่ควรทำ เพื่อควบคุมตัวเลขเงินเฟ้อทั้งในระยะกลางและระยะยาว ประชาชนจำนวนมากกำลังเผชิญภาวะตึงตัวทางการเงินเพราะไม่สามารถชำระเงินกู้จำนองรายเดือนได้ ดังนั้น รัฐบาลควรจะหาทางเลือกให้พวกเขา"
ก่อนหน้านี้ กรีนสแปนกล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีอยู่ถึง 50% และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะชะงักงันเต็มที โดยการแสดงความคิดเห็นของกรีนสแปนมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ภายใต้การนำของเบน เบอร์นันเก้ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันอังคารที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์และภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อฉุดเศรษฐกิจให้ถดถอยลง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่ท้าทายที่สุดนับตั้งแต่นายเบอร์นันเก้สืบทอดตำแหน่งประธานเฟดต่อจากกรีนสแปน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--