กบข.เปิดกลยุทธ์ปี 51 ตั้งเป้าผลตอบแทน 6-6.5% เพิ่มลงทุนหุ้นกลุ่มบริโภค

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 17, 2007 11:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กบข.ตั้งเป้าผลตอบแทนการลงทุนในปี 51 ลดลงเหลือ 6.0-6.5% จากที่ตั้งเป้า 8-9% ในปีนี้ เนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาที่ 3.5-4.0% โดยกบข.วางกลยุทธ์การลงทุนด้วยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์ที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของบริโภคภายในประเทศ (Domestic Consumption) หากเห็นสัญญาณชัดว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แต่จะไม่เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานเพราะมองว่าปีนี้ถึงจุด peak แล้ว และเตรียมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเอเชีย 
"ปีนี้ก็เป็นปีที่เรา overweight energy แต่ปีหน้าเราคงต้องดูอีกที หลังจากเลือกตั้งแล้วกลยุทธ์การลงทุนเปลี่ยนไป จะให้น้ำหนักที่Domestic Consumption มากขึ้น ถ้ามันมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจของไทยจะดีขึ้น...มันเป็นกลยุทธ์ว่าถ้าพลังงานมันถึงจุดที่ peak และไม่น่าจะขึ้นไปมากเท่าไหร่แล้ว ก็ต้องหาตัวอื่นมาแทน"นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการ กบข.กล่าว
นายวิสิฐ กล่าวว่า กบข.จะเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการขยายตัวของ Domestic Consumption เมื่อมีสัญญาณที่ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้นได้ ซึ่งคงต้องรอดูความชัดเจนราวเดือน ม.ค.-ก.พ.51 ว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวใด ส่วนการลงทุนในกลุ่มพลังงานคงมีแนวโน้มเช่นเดียวกับทั่วโลกที่จะปรับลดสัดส่วนการลงทุนลง
พร้อมยืนยันว่าการปรับกลยุทธ์การลงทุนดังกล่าวไม่ใช่เป็นเพราะสาเหตุจากผลคดีของศาลปกครองที่สั่งให้บมจ.ปตท.(PTT) โอนทรัพย์สินประเภทที่ดินและท่อก๊าซคืนให้กับรัฐ และไม่ใช่ประเด็นที่มีผลให้ กบข.ต้องทบทวนการเข้าไปลงทุนในหุ้นของรัฐวิสาหกิจอื่น
นายวิสิฐ กล่าวอีกว่า ในอนาคต กบข.จะทยอยปรับลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ลง และปรับเพิ่มการลงทุนในตราสารทุนมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดตราสารทุน 2:3 ของการลงทุนโดยรวมของ กบข. และปีหน้า กบข.จะเพิ่มสัดส่วนการไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศให้มากขึ้นโดยเฉพาะหุ้นในแถบเอเชีย หลังจากที่ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ประสบปัญหา
"มันเป็น tactical strategy ที่จะเน้นน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเอเชียมากขึ้น ปัจจุบันมีอยู่ 15% ของการลงทุนในต่างประเทศที่เป็นหุ้น แต่ปีหน้าอาจเพิ่มเป็น 20-25%" เลขาธิการ กบข.กล่าว
นายวิสิฐ ยังกล่าวถึงการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ว่าในปีหน้า กบข.อาจจะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือคอนโดมิเนียม โดยคาดหวังผลตอบแทนไว้ที่ประมาณ 7-8% และจากนี้ต่อไปการเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมองว่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทั้ง 100% แต่เป็นแค่เพียงหุ้นส่วนก็ได้หากได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า
"เราไม่ mind ที่จะลงทุนเป็นแค่ partner ในตึกนั้น concept คือขณะนี้ไม่จำเป็นที่เราจะต้องถือตึกทั้ง 100% อีกแล้ว ตราบใดที่มันจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ได้ และเราไม่จำเป็นต้องลงทุนในตึกเกรด A ตลอดเวลา ตึกเกรด B ก็ได้ อยู่ที่ location ที่ดีด้วย"นายวิสิฐ กล่าว
เลขาธิการ กบข. ได้ฝากถึงรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาว่าควรจะวางรากฐานความมั่นคงแข็งแรงให้กับทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศ และเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกท์ต่างๆ รวมทั้งสร้างความมั่นใจในกฎหมายต่างๆ ที่จะมีผลต่อเนื่องไปถึงนักลงทุน พร้อมกับมองว่าควรมีนโยบายที่จะเพิ่ม supply ในตลาดหุ้นให้มากขึ้นโดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดนักลงทุนและลดความผันผวนของตลาดหุ้น
"ผมยังมองไม่เห็นว่าในประเทศไทยจะมีหุ้นใหญ่อะไรอีกที่จะเข้ามา แต่ผม welcome การให้ตลาดหุ้นไทยมั่นคงต้องมี supply ดีๆ และขนาดใหญ่เข้ามา ทุกวันนี้ถ้าด้วยปัญหาของรัฐวิสาหกิจต่างๆ จะทำให้ไม่มีหุ้นใหญ่ๆ เข้ามาก็น่าเสียใจแทนตลาดหุ้น" นายวิสิฐ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ