รมช.คลังมาเลเซียไม่หวั่นราคาน้ำมันปาล์มดิบพุ่ง ชี้ส่งผลดีต่อการส่งออก

          นายนอร์ โมฮัมเหม็ด ยัคค็อพ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังของมาเลเซียเปิดเผยว่า รัฐบาลมาเลเซียไม่รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ พร้อมทั้งคาดว่า ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของจีนและอินเดีย
          ขณะนี้ ราคาน้ำมันปาล์มดิบไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงเกินไป และรัฐบาลมาเลเซียยังไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องควบคุมราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้เราพอใจที่ราคาขายน้ำมันปาล์มดิบพุ่งสูงขึ้น นายนอร์ โมฮัมเหม็ดกล่าว
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบ สามารถวัดได้จากสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบล่วงหน้าในตลาดตราสารอนุพันธ์ของมาเลเซีย ซึ่งดีดตัวขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 50% โดยสัญญาซื้อขายน้ำมันงวดส่งมอบเดือนมี.ค.ครั้งล่าสุดซื้อขายกันที่ 2,940 ริงกิต หลังจากพุ่งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,068 ริงกิตเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา
          "ราคาน้ำมันจะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอุปสงค์ในตลาดระดับกลางจากประเทศจีนและอินเดียที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันปาล์มที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลดีต่อรายได้จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มชั้นนำของโลก" นายนอร์กล่าว
          ยอดส่งออกสินค้าประเภทน้ำมันปาล์มดิบของมาเลเซียพุ่งขึ้นเกือบ 70% แตะที่ระดับ 4.25 พันล้านริงกิตในเดือนต.ค. ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 2.5 พันล้านริงกิตในปีก่อนหน้านี้
          อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นมิได้ส่งผลดีต่อการดำเนินการที่จะสนับสนุนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลของมาเลเซียมากนัก เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าวต้องใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นวัตถุดิบในการผลิต
          ทั้งนี้ นายปีเตอร์ ชิน รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีบริษัทเพียง 5 แห่งจากจำนวนทั้งสิ้น 91 แห่งที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลมาเลเซียในการสร้างโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่สกัดจากน้ำมันปาล์มที่ผลิตภายในประเทศ