กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตราที่ช้าลงและอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย อันเป็นผลมาจากวิกฤติสินเชื่อ
IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 5.2% ในปีนี้ และ 4.8% ในปีหน้า โดยตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ถึง 1.5% สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก
นอกจากวิกฤติสินเชื่อแล้ว ปัจจัยอื่นที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวช้าลงประกอบด้วย อัตราเงินเฟ้อ ตลาดน้ำมันที่ผันผวน และ เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดใหม่
นายจอห์น ลิปสกี รองผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ต้องมีการปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าประเทศอื่น
อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่า จีน อินเดีย และประเทศเศรษฐกิจใหม่อื่นๆ จะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีหน้า
นายไซม่อน จอห์นสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า "ประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจใหม่สามารถต้านทานวิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นได้ และจะเป็นรากฐานในการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า"
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 9.2% ในปีนี้ และ 8.3% ในปีหน้า ส่วนเศรษฐกิจแอฟริกาจะขยายตัว 5.7% ในปีนี้ และ 6.5% ในปีหน้า ด้านเศรษฐกิจตะวันออกกลางจะขยายตัว 5.9% ทั้งในปีนี้และปีหน้าโดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--