นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอในการให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้มีรายได้น้อยจำนวน 11.4 ล้านคน ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาตินี้ ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นผู้สูงอายุ จำนวน 3.6 ล้านคน, ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ อาจไม่ต้องจ่ายค่าบริการในกรณีดังต่อไปนี้ 1.เป็นผู้มีรายได้น้อย ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสวัสดิการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล พ.ศ.2537 ได้แก่ คนโสดหรือผู้เยาว์ที่ไม่มีผู้อุปการะ มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท หรือบุคคลในครอบครัวเดียวกัน มีรายได้รวมกันไม่เกินเดือนละ 2,800 บาท 2.คนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และ 3.บุคคลที่แสดงความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังมีการประเมินแล้วว่าโรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะไม่สูญเสียรายได้มากนัก โดยคาดว่าจะไม่เกิน 61.7 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนหนึ่งไม่ต้องจ่ายค่าบริการอยู่แล้ว ตามประเภทบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง บุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ พ.ศ.2555