กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ให้ความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการตรึงดอกเบี้ยครั้งที่ 26 ภายหลังการลงมติ 6 ต่อ 1 โดยมี 1 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันที่มีการลงมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ส่งผลให้เงินบาทซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับซื้อขายในช่วงเช้า
นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทอ่อนค่าลง 2% เทียบกับดอลลาร์ หลังจากตลาดกังวลในเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตแข็งแกร่ง
นับเป็นอีกครั้งที่คณะกรรมการ กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และมีมุมมองเชิงบวกทั้งด้านต่างประเทศและในประเทศ โดยภาคส่งออกมีแนวโน้มเติบโตดีกว่าคาด ส่วนหนึ่งเนื่องจากการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรมมายังประเทศไทย คณะกรรมการระบุถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการค้าต่างประเทศของสหรัฐฯ พฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำ และแนวโน้มการเคลื่อนไหวที่ผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ กนง.ยังแสดงความกังวลในเรื่องผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวหลังเกิดเหตุเรือท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต และสภาวะอุปทานคงค้างของคอนโดมิเนียมในบางพื้นที่ นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังมีความเสี่ยงด้านต่ำจากความผันผวนของราคาอาหารสด
คณะกรรมการ กนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 19 กันยายน 2561 กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ยังคงมองว่า คณะกรรมการ กนง. จะปรับสมดุลนโยบายการเงิน และปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.75% ก่อนสิ้นปีนี้ จากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น ขณะที่ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวในการแถลงข่าววันนี้ว่า กนง.มองว่าความจำเป็นของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย "น้อยลงเรื่อยๆ"